พวกคุณนั่นแหละที่ไม่พร้อม
การที่ประธานรัฐสภาปัดข้อเรียกร้องของประชาชนกว่า 3 หมื่นคน ที่นำโดยคณะนิติราษฎร์และคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 ด้านหนึ่งนับเป็นความขลาดเขลาของประธานรัฐสภา ด้านหนึ่งสะท้อนความขลาดเขลาของพรรครัฐบาลที่บอกปัดข้อเสนอนี้มาตั้งแต่ ครก.112 เริ่มรณรงค์
ขอถาม “ฝ่ายก้าวหน้า” ในพรรคเพื่อไทยว่า พวกคุณได้ตำแหน่งแหล่านี้มาได้อย่างไร ใน 6 ปีที่ผ่านมา คุณออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชนเพื่ออะไร พวกคุณต่อสู้เพียงเพื่อให้เรากลับมาที่จุดเริ่มต้นก่อนรัฐประหาร 2549 เท่านั้นหรือ ยังมีคืนวันอันแสนหวานที่ชนชั้นนำ บรรดานายห้าง นายทหาร คณะราษฎรอาวุโส และนักวิชาการผู้อวดอ้างความทรงศีล สามารถเสวยสุขเสวยอำนาจบนกองเงินกองทองอยู่หลังฉากศีลธรรมพอเพียงที่ปวง ประชาราษฎร์กราบกรานแห่แหนอย่างงมงายอยู่อีกหรือ พวกคุณจะดูดายกับการที่ประชาชนที่ต่อสู้กับคุณมาและประชาชนผู้บริสุทธิ์ อื่นๆ อีกมาก จะต้องถูกจำคุกด้วยข้อหา “พูดไม่เข้าหูชนชั้นนำ” อย่างนั้นหรือ
แต่ในอีกด้านหนึ่ง พึงบันทึกไว้ว่า นี่คือความไม่พร้อมอีกครั้งหนึ่งของชนชั้นนำไทย
ความ
ไม่พร้อมของชนชั้นนำไทยเริ่มมาตั้งแต่การบอกปัดข้อเสนอของคณะ รศ.130
การอภิวัฒน์ 2475 ของคณะราษฎร ก็ถูกชนชั้นนำมองว่าเป็นการ “ชิงสุกก่อนห่าม”
ทั้งที่อันที่จริงชนชั้นนำเองต่างหากที่ไม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลัง
เกิดขึ้นแล้วในสยาม
การ
บอกปัดข้อเรียกร้องรัฐธรรมนูญของนักศึกษา 14 ตค. 2516
การบอกปัดข้อเรียกร้องให้ปกป้องสิทธิของคนงานที่ถูกแขวนคอ
และประท้วงการกลับมาของเผด็จการของนักศึกษา 6 ตค. 2519
การบอกปัดข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาจาการเลือกตั้งในปี 2535
และการบอกปัดข้อเรียกร้องให้ยุบสภาในปี 2553
นำมาซึ่งการปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยม
แล้วผู้ก่อการอันโหดเหี้ยมเหล่านั้นก็กลับลอยนวล
เหล่านี้คือความไม่พร้อมของประชาชนหรือความไม่พร้อมของชนชั้นนำกันแน่
การบอกปัดข้อเสนอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งของความไม่พร้อมของชนชั้นนำ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
ข้อ
เสนอของประชาชนแต่ละครั้งนั้นเรียบง่าย
ไร้การต่อรองผลประโยชน์เฉพาะตนเฉพาะหน้า
เป็นการเรียกร้องเพื่อสิทธิพื้นฐานของประชาชนในระยะยาว
ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมือง สิทธิในการปกครองตนเอง
สิทธิในการแสดงความคิดเห็น และสิทธิในร่างกาย
ข้อ
เสนอของประชาชนจึงไม่ได้ต้องการการศึกษาระดับสูงอะไรเลยก็เข้าใจได้
ตาสีตาสาตามีตามา ใครที่ไหนก็เข้าใจได้ว่า
สิทธิในเนื้อตัวร่างกายตนเองสำคัญอย่างไร
เสรีภาพในการแสดงคำพูดคำจาและความคิดความอ่านของตนเองสำคัญอย่างไร
อำนาจในการปกครองตนเองนั้นสำคัญอย่างไร
แต่
ก็เพราะข้อเรียกร้องต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเรียบง่ายอย่างนี้นี่แหละ
ที่นำมาซึ่งการบอกปัดของชนชั้นนำ
การบอกบัดนี้ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการหวงอำนาจที่มีมาแต่เดิมของตน
การบอกปัดนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมของชนชั้นนำ
ในขณะที่ประชาชนนั้นพร้อมมาเป็นร้อยปีแล้ว
จะ
มีใครเล่าไม่พร้อมที่จะได้รับสิทธิเสรีภาพของตนเอง
จะมีก็แต่กลุ่มคนที่หวงอำนาจอยู่เท่านั้นที่ไม่พร้อมที่จะสละอำนาจของตนให้
กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
(ที่มา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น