ศึกซักฟอก "รัฐบาลนารี" "หมัดน็อก"ปะทะ"หมัดสวน"
เคาะ
วันเวลาออกมาเรียบร้อยแล้วสำหรับ "ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล"
ซึ่งกำหนดไว้ระหว่างวันที่ 25-27 พฤศจิกายน และกำหนดวันลงมติการอภิปราย
ในวันที่ 28 พฤศจิกายน
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ พลพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะเบอร์หนึ่งของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผนึกกำลังอย่างแข็งขันกับ "พรรครักประเทศไทย" ยื่นญัตติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 เข้าชื่อต่อประธานสภา
ผู้แทนราษฎร ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
พ่วง ด้วยบทบัญญัติมาตรา 159 เข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลอีก 3 ราย ประกอบด้วย 1.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี 2.พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม และ 3.พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ศึกซักฟอกในครั้งนี้ผ่านการเห็น ชอบของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ตรงกันให้เปิดสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตลอด 3 วัน 3 คืน ด้วยเวลา 30 ชั่วโมง โดยวางเป้าถล่ม 1 นายกรัฐมนตรี พ่วงด้วย 3 รัฐมนตรี ขณะที่ "ฝ่ายบริหาร" ได้รับการจัดสรรเวลา 12 ชั่วโมง ในการรับมือและชี้แจงกลับให้ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริง
ส่วนการเดิน เกมในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายรุกอย่าง พลพรรคประชาธิปัตย์นั้น ต้องเรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์แบบ "ลับ ลวง พราง" เพราะไม่มีการเปิดเผยญัตติ ประเด็นและตัวขุนพลที่จะใช้เชือด "นายกฯปู" และ "3 รัฐมนตรี" ให้ฝ่ายรับได้ล่วงรู้
เป็นเหตุให้ฝ่ายรับอย่าง รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องมานั่งปรึกษาหารือในการรับศึกซักฟอกในครั้งนี้ ผ่านการคาดการณ์ประเด็นความเป็นไปได้ที่่ขุนพลฝ่ายค้านทั้ง 20 ชีวิต จะใช้ถล่มนายกฯและรัฐมนตรี กลางเวทีรัฐสภา น่าจะเป็น "โครงการรับจำนำข้าว" ที่แม้จะอยู่ในความรับผิดชอบของ "บุญทรง เตริยาภิรมย์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ พลพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะเบอร์หนึ่งของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ผนึกกำลังอย่างแข็งขันกับ "พรรครักประเทศไทย" ยื่นญัตติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 เข้าชื่อต่อประธานสภา
ผู้แทนราษฎร ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
พ่วง ด้วยบทบัญญัติมาตรา 159 เข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลอีก 3 ราย ประกอบด้วย 1.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี 2.พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม และ 3.พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ศึกซักฟอกในครั้งนี้ผ่านการเห็น ชอบของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ตรงกันให้เปิดสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตลอด 3 วัน 3 คืน ด้วยเวลา 30 ชั่วโมง โดยวางเป้าถล่ม 1 นายกรัฐมนตรี พ่วงด้วย 3 รัฐมนตรี ขณะที่ "ฝ่ายบริหาร" ได้รับการจัดสรรเวลา 12 ชั่วโมง ในการรับมือและชี้แจงกลับให้ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริง
ส่วนการเดิน เกมในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายรุกอย่าง พลพรรคประชาธิปัตย์นั้น ต้องเรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์แบบ "ลับ ลวง พราง" เพราะไม่มีการเปิดเผยญัตติ ประเด็นและตัวขุนพลที่จะใช้เชือด "นายกฯปู" และ "3 รัฐมนตรี" ให้ฝ่ายรับได้ล่วงรู้
เป็นเหตุให้ฝ่ายรับอย่าง รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องมานั่งปรึกษาหารือในการรับศึกซักฟอกในครั้งนี้ ผ่านการคาดการณ์ประเด็นความเป็นไปได้ที่่ขุนพลฝ่ายค้านทั้ง 20 ชีวิต จะใช้ถล่มนายกฯและรัฐมนตรี กลางเวทีรัฐสภา น่าจะเป็น "โครงการรับจำนำข้าว" ที่แม้จะอยู่ในความรับผิดชอบของ "บุญทรง เตริยาภิรมย์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
แต่ฝ่ายค้านกลับพุ่งเป้าทุบกล่องดวงใจ "รัฐบาล" คือ "นายกรัฐมนตรี" เป็นหลัก โดยไร้ชื่อ "บุญทรง" ด้วยเห็นว่า "นายกฯหญิง" คือผู้มีสถานะหนึ่ง คือ ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง ย่อมหลีกหนีความบกพร่องไปไม่ได้
ขณะที่รองนายกฯฝีปากกล้าอย่าง "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" คาดว่าจะถูก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ซักฟอกในเรื่องเกี่ยวกับการบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รวมทั้งขอถล่มเรื่องการปราบปรามบ่อนการพนันและอบายมุข และการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ส่วน "พล.ต.ท.ชัจจ์" คาดว่าจะถูก "ฝ่ายค้าน" เล็งซักฟอกในเรื่องที่รับผิดชอบขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในกรณีที่มีคำสั่งยกเลิกการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงบางซื่อ-รังสิต การบริหารงานตลาดนัดจตุจักร และการดำเนินการให้กรมเจ้าท่าขุดลอกคูคลองเพื่อป้องกันอุทกภัย ซึ่งพบว่ามีความไม่โปร่งใสในเรื่องงบประมาณ
ปิดท้ายที่ "พล.อ.อ.สุกำพล" คาดว่าจะถูก "ฝ่ายค้าน" ซักฟอกการบริหารงานภาพรวมระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมทั้งอภิปรายในตำแหน่ง "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม" ในประเด็นการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งการดำเนินการถอดยศนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ทั้ง หลายทั้งปวงเกี่ยวกับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ วันนี้ ทั้งฝ่ายผู้ท้าชิงอย่าง "พรรคประชาธิปัตย์" ออกมาข่มขวัญว่าจะมี "หมัดน็อก" หวังให้ฝ่ายรับอย่าง "นายกฯหญิง" และ "3 รัฐมนตรี" ล้มพับกลางสภา
ทว่า ฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยก็ไม่น้อยหน้า
ด้วยการตอบโต้ "ปชป." ผู้ท้าชิง กลับไปว่าให้ระวัง
"หมัดสวน" ของ "นายกฯปู" และ "3 รัฐมนตรี" ให้ดีไว้เหมือนกัน หากประมาทเลินเล่ออาจมีสิทธิหลับคาสภาได้เหมือนกัน
คง ต้องติดตามกันดูว่าระหว่าง "หมัดน็อค" ปะทะ "หมัดสวน" ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะดุเดือดแค่ไหน และฝ่ายใดจะเป็นผู้คว้าชัยไปในที่สุด
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353728870&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น