หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ออกมาแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของการเป็นเผด็จการตุลาการศาลไทย



อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ออกมาแสดงให้เห็นถึงธาตุแท้ของการเป็นเผด็จการตุลาการศาลไทย

 

Photo: ไม่มีคำอธิบาย....สำหรับความ(อ)ยุติธรรม

อธิบดีศาลฯ เล็ง "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" - จะเรียกมาสอบถามดีหรือไม่ เพราะแรงสิบเท่า


อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาระบุจะไม่ดำเนินคดีผู้เผาตำรากฎหมายหน้าศาล เพราะจะเป็นการต่อความยาว แต่ห่วงการปลุกระดมที่มีการดึงสหภาพยุโรปหวังสร้างความน่าเชื่อถือ-ไม่แน่ใจ ว่าต่างประเทศจะเข้าใจธรรมเนียมไทยหรือไม่ ส่วนบทความของ "วีรพัฒน์ ปริยวงศ์" ศาลไม่ติดใจ แต่กำลังพิจารณาว่าจะเรียก "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" มาสอบถามดีหรือไม่ เพราะแรงกว่าสิบเท่า
 

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ปราศรัยที่วัดลาดพร้าวเมื่อ 25 ส.ค. 55 (แฟ้มภาพ)


มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงกรณีที่มีผู้มาประท้วงหน้าศาลอาญาในวันนี้ ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมีการเผาตำรากฎหมายว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของศาลอาญาดูเเลรักษาความสงบ ซึ่งก็ไม่มีเหตุการณ์ร้ายเเรงหรือลุกลาม ส่วนที่มีการเผาตำรา หรือเเจกเอกสารนั้นก็เป็นการเเสดงความไม่เห็นด้วยในกระบวนการยุติธรรมเเละ เเสดงออกทางสัญลักษณ์ ทางศาลอาญาก็จะไม่มีการดำเนินคดีอะไรกับคนกลุ่มนี้ เพราะจะเป็นการต่อความยาว ผู้ชุมนุมก็ชุมนุมบริเวณข้างหน้าศาลไม่ได้เข้ามาชุมนุมในเขตรั้วของศาล โดยตนคิดว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์ลุกลามไปกว่านี้เเล้ว เพราะทางศาลอาญามีการชี้เเจงผ่านสื่อมวลชนไปเเล้วถึงคดีของนายสมยศ เเละเชื่อว่าประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นคนส่วนมากเเละมีความคิดเป็นกลางจะมีความ เข้าใจ

"เเต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือคนบางกลุ่มมีการปลุกระดมเพื่อสร้างความน่า เชื่อถือโดยการดึงต่างประเทศ เช่นสหภาพยุโรป(อียู)เข้ามา ซึ่งก็ไม่เเน่ใจว่าทางต่างประเทศจะมีความเข้าใจในวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมของ ประเทศไทยหรือไม่เเต่ที่ตนเชื่อว่าจะไม่บานปลายเพราะกระบวนการยุติธรรมเรามี บทบัญญัติชัดเจนเเละตรวจสอบได้"อธิบดีศาลอาญาระบุ


นายทวี กล่าวว่า ส่วนกรณีบทความของนาย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฏหมายอิสระ นั้นหลังจากที่ทางสื่อมวลชนได้ลงข่าวไปเเละมีบทความชี้เเจงมาจากนายวีรพัฒน์ อีกครั้งนั้น ทางศาลก็ไม่ติดใจที่จะถือสาหาความอีก เเละจะถือเป็นการเเสดงความคิดเห็นทางวิชาการ ซึ่งบทความในครั้งเเรกมีลักษณะที่สั้นเกินเเละมีความเเข็งกร้าว ส่วนบทความชี้เเจงครั้งที่สองมีการอธิบายรายละเอียดของเจตนาที่ต้องการจะ สื่อสารมากขึ้น ก็ถือเป็นบทเรียนไป ซึ่งทั้งฝ่ายศาลเเละนักวิชาการต้องมองให้ละเอียดมากขึ้น

"เเต่ในส่วนของกรณีอื่นๆก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป อาทิ กรณีของ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็มีลักษณะเเข็งกร้าวเกินพอสมควรมีเเนวคิดเเละบทความที่สื่อออกมาที่จะเสีย หายต่อสถาบันเเละศาล รุนแรงและแข็งกร้าวมากว่านายวีรพัฒน์เป็นสิบเท่า ซึ่งมองว่าสุ่มเสี่ยงมาก ทางศาลกำลังดำเนินการตรวจสอบ เเละพิจารณาต่อไปว่าจะออกหมายเรียกมาสอบถามหรือไม่"อธิบดีศาลอาญาระบุ

(ที่มา)
http://prachatai.com/journal/2013/01/44901 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น