"ถ้าเบื่อความ
รุนแรงจริง ก็ต้องเจรจา แต่ไม่ใช่การเจรจาจัดฉากเพื่องานการข่าวเหมือนหลายๆ
ครั้งที่ผ่านมา
เพราะเชื่อว่าอารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนและสมาชิกขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อ
เอกราชปาตานี ก็คงเบื่อภาวะความรุนแรงไม่ต่างกับทาง กอ.รมน. เหมือนกัน
และในเวลาเดียวกันก็ “เบื่อการเจรจาจัดฉาก” ด้วยเหมือนกัน
ท่าทีที่ไม่ชัดเจนของรัฐไทยว่ากำลังทำสงครามเพื่อยุติสงครามกับขบวนการ
เคลื่อนไหวเพื่อเอกราชปาตานี ด้วยความรุนแรงโดยใช้การทหาร หรือ
ด้วยสันติวิธีที่ต้องสิ้นสุดที่การเจรจา
แบบมีคนกลางที่มีความเป็นรัฐโดยใช้การเมือง
ทำให้เหลือพื้นที่การต่อสู้สำหรับประชาชนปาตานีที่ต้องการเอกราชเป็นทางเลือกแห่งสันติภาพด้วยการหลั่งเลือดเท่านั้น
นี่คือสภาพความเป็นจริงของสถานการณ์ความไม่สงบ บนเส้นทางเอกราชอาบเลือดที่ปาตานีหรือชายแดนใต้ของประเทศไทย ณ ปัจจุบัน"
โดย ตูแวดานียา ตูแวแมแง
สถาบันเยาวชนเพื่อสันติภาพและการพัฒนา (YDA)
เริ่มเข้าเดือนแรกของปีที่ 10
ของสถานการณ์สงครามนอกระบบระหว่างขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชปาตานีกับรัฐ
ไทย ก็พอเห็นแสงแห่งความหวังของสันติภาพบ้างแบบคลุมเครือ โดยผ่านวาทกรรม
“เบื่อความรุนแรง” ตามป้ายริมถนนสายหลักทั่วพื้นทีจังหวัดชายแดนภาคใต้
และการเดินทางหารือเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซียในการ
คลี่คลายปัญหาความรุนแรงของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กับ ดาโต๊ะศรีฮัจญี มูฮำหมัดนายิบ
บินต่วนฮัจญีอับดุลรอซัก นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย
ซึ่งเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าชนวนเหตุการณ์สู้รบระลอกใหม่ครั้งนี้ ถูกจุดด้วยยุทธการปล้นปืนที่ค่าย ร.5 พันพัฒนาที่ 4 ค่ายปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
เมื่อ 4 มกราคม พ.ศ.2547
จากนั้นมากลิ่นอายของบรรยากาศสงครามประชาชนก็เกิดขึ้นอย่างมีพัฒนาการชัด
ขึ้นและชัดขึ้นเรื่อยๆของภาพการมีหุ้นส่วนสำคัญ
ในการดำเนินการสงครามจรยุทธ์ที่มาจากบทบาทของประชาชนโดยผ่านทั้งกองกำลังติด
อาวุธและแนวทางทางการเมืองทุกรูปแบบ แต่ไม่ได้หมายความว่าก่อนปี พ.ศ.2547
นั้นสถานการณ์อยู่ในภาวะสงบ
เพราะชนวนเหตุของสงครามนอกระบบในดินแดนมลายูแห่งนี้
ตามที่หลายชุดข้อมูลทางวิชาการประวัติศาสตร์ปาตานีกับสยามได้อ้างถึง
ชัดเจนว่ามาจากอุดมการณ์ปลดแอกจากการยึดครองดินแดนของสยามโดยคนมลายูปาตานี
กับอุดมการณ์รักษาดินแดนอันเป็นผลลัพธ์ของการล่าอาณานิคมสำเร็จของสยามหรือ
กรุงเทพฯโดยรัฐไทย
ซึ่งเริ่มต้นภาวะสงครามด้วยเหตุการณ์แรกที่อาณาจักรปาตานีถูกตีแตกโดย
อาณาจักรสยามเมื่อปี ค.ศ.1786
(อ่านต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น