ครม.ไฟเขียว ลดราคาจำนำข้าวเปลือกเหลือ 1.2 หมื่น/ตัน ด้าน นายกฯ เข้ม 3 มาตราการดูแลเกษตรกร
อ หวาน เวทีภปช 18 6 2013
  
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=CeZNFohr_Ggครม.ไฟเขียว ลดราคาจำนำข้าวเปลือกเหลือ 1.2 หมื่น/ตัน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371625998&grpid=03&catid&subcatid

ใบตองแห้ง
ถ้าคิดจะเอาบุญทรงเป็นแพะคนเดีย
 
เพื่อนในสายข่าวเศรษฐกิจบอกว่า วันนี้ โรงสีหยุดรับซื้อรับจำนำข้าวหมด
 
การยอมยกธงขาว 1 ในนโยบายสำคัญที่สุด ไม่สามารถหยุดการโจมตีได้ จะทำให้รัฐบาลมีแต่ถูกกระหน่ำซ้ำเติม ถูกต้อนเข้ามุม ด้วยวิธีการสร้างกระแสรายวันอย่
 
คุณจะถูกสร้างจินตนาการผ่านกระแ
 
เขาไม่รัฐประหารหรอก แต่จะบีบให้รัฐบาลเข้าทางตันไปเ
เพื่อนในสายข่าวเศรษฐกิจบอกว่า วันนี้ โรงสีหยุดรับซื้อรับจำนำข้าวหมด
การยอมยกธงขาว 1 ในนโยบายสำคัญที่สุด ไม่สามารถหยุดการโจมตีได้ จะทำให้รัฐบาลมีแต่ถูกกระหน่ำซ้ำเติม ถูกต้อนเข้ามุม ด้วยวิธีการสร้างกระแสรายวันอย่
คุณจะถูกสร้างจินตนาการผ่านกระแ
เขาไม่รัฐประหารหรอก แต่จะบีบให้รัฐบาลเข้าทางตันไปเ
 
 
วัฒนะ วรรณ 
สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจ 
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ขาดทุน เพราะการดำเนินนโยบายรัฐ ตามทฤษฎีเคนส์ 
นั่นย่อมขาดทุนอยู่แล้ว เช่น โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ 
อันนั้นก็ขาดทุน แต่โดยภาพรวมเป็นการใส่เงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ 
ส่วนเงินนั้นจะตกถึงใครก็ขึ้นอยู่กับวิธี
การเป็นสำคัญ เช่น กรณีรับจำนำข้าว ผลประโยชน์อาจจะตกถึงเกษตรกรมากหน่อย 
และนี่คือเหตุผลสำคัญว่า ทำไมถึงต้องปรับลดราคารับจำนำลง
 
การจะเข้าใจเรื่องนี้ต้องนำแนวคิดเศรษฐศาสตร์การเมืองมาร์คซิสต์ และแนวคิดแบบชนชั้นมาอธิบาย ถึงจะเห็นภาพ
 
การเอาเงินใส่เข้าไปในระบบรับจำนำ เพื่อให้ถึงมือชาวนา นั่นรัฐจำเป็นต้องหาเงินมาใส่ วิธีการหาเงินของรัฐมีมากมายหลายวิธี แต่ปลายทางสุดท้ายก็ต้องพึ่งพิงการจัดเก็บภาษี ดังนั้นถ้าจะให้โครงการเช่นนี้ หรือโครงการอื่นๆ มีประสิทธิภาพเพิ่มสงเสริมการกินดีอยู่ดีของคนยากคนจน รัฐจะต้องใส่เพิ่มเข้าไปในระบบ และสุดท้ายต้องเพิ่มรายได้เข้ารัฐ โดยการเพิ่มภาษี โดยเฉพาะการเพิ่มภาษีกับภาคธุรกิจและภาษีรายได้ของคนรวยมากๆ แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลเพื่อไทยทำในสิ่งตรงข้าม คือไปลดภาษีจากธุรกิจ ซึ่งนั่นทำให้รายได้รัฐไม่ได้เพิ่มขึ้น และในระยะยาว การเอาเงินมาอุดหนุนคนจนมากๆ จะไปบั่นทอนงบประมาณที่ใช้สำหรับคนรวยๆ และทหาร เป็นต้น
 
และนี่คือจุดอ่อนของนโยบายประชานิยมที่องค์กรเลี้ยวซ้ายเคยวิเคราะห์ไว้ เมื่อสมัยไทยรักไทย ถ้าไม่การปฏิรูประบบภาษีนโยบายนี้จะมีขีดจำกัดสูงมาก เราจึงเสนอให้มีการปฏิรูปภาษีจัดเก็บในอัตราก้าวหน้า กล่าวคือ ใครมีมากจ่ายมาก ใครมีน้อยจ่ายน้อย หรือไม่ต้องจ่าย เพื่มนำเงินมาจัดรัฐสวัสดิการ เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนให้เท่าเทียมกัน
การจะเข้าใจเรื่องนี้ต้องนำแนวคิดเศรษฐศาสตร์การเมืองมาร์คซิสต์ และแนวคิดแบบชนชั้นมาอธิบาย ถึงจะเห็นภาพ
การเอาเงินใส่เข้าไปในระบบรับจำนำ เพื่อให้ถึงมือชาวนา นั่นรัฐจำเป็นต้องหาเงินมาใส่ วิธีการหาเงินของรัฐมีมากมายหลายวิธี แต่ปลายทางสุดท้ายก็ต้องพึ่งพิงการจัดเก็บภาษี ดังนั้นถ้าจะให้โครงการเช่นนี้ หรือโครงการอื่นๆ มีประสิทธิภาพเพิ่มสงเสริมการกินดีอยู่ดีของคนยากคนจน รัฐจะต้องใส่เพิ่มเข้าไปในระบบ และสุดท้ายต้องเพิ่มรายได้เข้ารัฐ โดยการเพิ่มภาษี โดยเฉพาะการเพิ่มภาษีกับภาคธุรกิจและภาษีรายได้ของคนรวยมากๆ แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลเพื่อไทยทำในสิ่งตรงข้าม คือไปลดภาษีจากธุรกิจ ซึ่งนั่นทำให้รายได้รัฐไม่ได้เพิ่มขึ้น และในระยะยาว การเอาเงินมาอุดหนุนคนจนมากๆ จะไปบั่นทอนงบประมาณที่ใช้สำหรับคนรวยๆ และทหาร เป็นต้น
และนี่คือจุดอ่อนของนโยบายประชานิยมที่องค์กรเลี้ยวซ้ายเคยวิเคราะห์ไว้ เมื่อสมัยไทยรักไทย ถ้าไม่การปฏิรูประบบภาษีนโยบายนี้จะมีขีดจำกัดสูงมาก เราจึงเสนอให้มีการปฏิรูปภาษีจัดเก็บในอัตราก้าวหน้า กล่าวคือ ใครมีมากจ่ายมาก ใครมีน้อยจ่ายน้อย หรือไม่ต้องจ่าย เพื่มนำเงินมาจัดรัฐสวัสดิการ เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนให้เท่าเทียมกัน
![[IMG]](https://sphotos-a.xx.fbcdn.net/hphotos-ash4/1002410_614841291867496_2026291838_n.jpg)
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น