หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ลดเงินจำนำข้าว ความอัปลักษณ์ของพวกคลั่งกลไกตลาด

ลดเงินจำนำข้าว ความอัปลักษณ์ของพวกคลั่งกลไกตลาด 


 
การนำภาษีของสังคมมาอุดหนุนโครงการบางอย่าง เพื่อเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนโดยเฉพาะคนจน เป็นเรื่องที่ชอบธรรม ยิ่งในสังคมไทยที่มีความเหลื่อมล้ำมากระหว่างคนรวยกับคนจน ยิ่งสมควรทำมากขึ้นอีก

โดย วัฒนะ วรรณ 

โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเพื่อไทย เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าจะมีคอรัปชั่นในบางขั้นตอนเช่นการนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวม สิทธิ์ หรือการขายข้าวราคาถูกมากๆ ให้กับนายทุนเอาไปขายต่อในราคาเดิม ดูได้จากการแสดงความไม่พอใจขององค์กรชาวนาที่มาชุมนุม ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลขยายเวลาการรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาทออกไปอีก ซึ่งชาวนาเป็นกลุ่มที่ยากจนกลุ่มแรกๆ ในสังคมไทยที่ถูกละเลยมาต่อเนื่อง

ส่วนคนที่คัดค้านในโครงการนี้ ส่วนมากจะเป็นพวกเสรีนิยมกลไกตลาด เช่น TDRI ที่มักจะหยิบประเด็นการขาดทุนของโครงการมาแสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าถึงที่สุดแล้วรัฐบาลอาจจะเป็นหนี้มากขึ้น หรือรัฐบาลอาจจะถังแตกได้ จากการเอาเงินมาอุดหนุนชาวนา

การขาดทุนของรัฐไม่ใช่เรื่องใหม่ของพวกเสรีนิยม พวกนี้มักมองว่ารัฐไม่ควรเอาเงินภาษีไปอุดหนุนโครงการต่างๆ ที่ก่อประโยชน์ให้กับคนในสังคมโดยเฉพาะคนจน(แต่ถ้าเอาไปอุดหนุนคนรวยสามารถ ทำได้) ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของกลไกตลาดเป็นคนจัดการ แนวคิดแบบนี้ไม่ต่างจากการเสนอให้แปรรูปรัฐวิสาหกิจ แปรรูปรถเมล์ แปรรูปรถไฟ แปรรูปมหาวิทยาลัย เพราะเป้าหมายเดียวกัน คือการลดเงินอุดหนุน(ให้เปล่า) กับกิจการเหล่านี้จากภาครัฐเพื่อบริการประชาชนในราคาถูก

การนำภาษีของสังคมมาอุดหนุนโครงการบางอย่าง เพื่อเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนโดยเฉพาะคนจน เป็นเรื่องที่ชอบธรรม ยิ่งในสังคมไทยที่มีความเหลื่อมล้ำมากระหว่างคนรวยกับคนจน ยิ่งสมควรทำมากขึ้นอีก การนำเงินภาษีเหล่านี้มาสนับสนุนคนจนเพื่อลดช่องว่าง มันไม่ใช่การให้ทาน จากผู้มีมากให้กับผู้มีน้อย แต่เป็นการทวงคืนความมั่งคั่งกลับสู่สังคม เนื่องด้วยความร่ำรวยที่เกิดขึ้นในสังคม ไม่มีใครทำมากกว่าใครอย่างเห็นได้ชัด ความร่ำรวยมาจากการทำงานของทุกคนโดยเฉลี่ย แต่ความมั่งคั่งกลับกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ไม่กี่กลุ่ม ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ยังยากจนอยู่มาก

แต่ความล้มเหลวของโครงการนี้ มาจากแนวคิดเสรีนิยมกลไกตลาดของรัฐบาลเพื่อไทยแต่แรก ที่ไม่พยายามจะเพิ่มภาษีคนรวย เพื่อเอามาอุดหนุนโครงการรับจำนำข้าว ด้วยคาดหวังว่าถ้ารัฐบาลเป็นผู้รับซื้อข้าวรายใหญ่ และกักตุนไว้(นำอุปทานออกจากตลาด) จะทำให้ราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้นสุดท้ายการขาดทุนจะไม่มากนัก และโครงการน่าจะดำเนินการไปได้ด้วยดี แต่ราคาข้าวไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น และการเร่งระบายข้าวที่อยู่ในโกงดัง จะยิ่งซ้ำเติมให้ราคาข้าวมีราคาตกต่ำลงไปอีก ซึ่งราคาที่ตกต่ำลงมา น่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะคนจนที่บริโภคข้าวเป็นหลัก แต่รัฐบาลกลับเลือกไม่ปล่อยข้าวราคาถูกมากๆ ออกมาขายให้กับประชาชน และนี่แสดงถึงความอับจนของแนวคิดเสรีนิยมกลไกตลาด ที่นักมาร์คซิสต์วิจารณ์มาตลอด

เราจะแก้ปัญหาผู้ผลิตให้มีรายได้เพิ่มขึ้นได้อย่างไร เราจะแก้ปัญหาผู้บริโภคให้สามารถซื้อข้าวในราคาถูกได้อย่างไร วิธีการจัดการบริหารนั้นง่ายมากโดยรัฐรับซื้อข้าวราคาแพงจากชาวนา และขายข้าวราคาถูกให้ผู้บริโภค ในส่วนต่างนั้นรัฐก็นำเงินภาษีที่เก็บในอัตราก้าวหน้าจากคนรวยมากๆ ในอัตราสูงพิเศษมาอุดหนุน หรือไปลดงบประมาณอื่นๆ ที่สิ้นเปลือง เช่นงบประมาณทหาร และงบพิธีกรรมต่างๆ

นอกจากนี้รัฐต้องพยายามลดต้นทุนการผลิตให้กับชาวนา โดยการสนับสนุนองค์กรชาวนาให้ทำการผลิตขนาดใหญ่ อาจจะเป็นในรูปแบบสหกรณ์การผลิตข้าว เพื่อลดต้นทุนเชิงขนาด โดยรัฐบาลสนับสนุนในด้านเทคโนโลยี เครื่องมือ เครื่องจักร ปุ๋ย เมล็ดพันธ์ พลังงาน ราคาถูก และอาจจะต้องสนับสนุนให้เกิดโรงสีโดยชาวนา การสนับสนุนอุตสาหกรรมการแปรรูปข้าว เป็นต้น

และสุดท้ายการแก้ปัญหาการคอรัปชั่น โดยมากมักจะเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างโรงสี นายทุนค้าข้าว กับเจ้าหน้าที่รัฐ วิธีแก้ปัญหาที่ลดการคอรัปชั่นลง ต้องเปิดโอกาสให้การดำเนินโครงการ มีผู้แทนชาวนาในฐานะผู้ผลิตและผู้แทนผู้บริโภค เขาไปมีส่วนเต็มที่ในการบริหารโครงการภายใต้การร่วมมือกับผู้แทนของอำนาจรัฐ ส่วนกลาง ซึ่งจะทำให้การคอรัปชั่นเกิดได้ยากขึ้นมาก เพราะมันเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค

แต่รัฐบาลเพื่อไทยจะไม่ทำเช่นว่านี้ เหตุผลคือรัฐบาลเพื่อไทยเป็นรัฐบาลพรรคนายทุน การกระทำแบบนี้ก็เท่ากับทำให้นายทุนเสียประโยชน์ในหลายด้าน เช่นนายทุนโรงสี นายทุนค้าข้าว ที่จะค่อยๆ ถูกตัดออกจากระบบอุตสาหกรรมข้าว และถูกแทนที่ด้วยสหกรณ์ผู้ผลิตข้าวกับผู้บริโภคโดยตรง หรือนายทุนในภาพรวมก็จะได้รับผลกระทบด้วย เพราะความมั่งคั่งของเขาจะลดลงโดยต้องเสียภาษีสูงๆ เพื่อนำมาอุดหนุนช่วยเหลือชาวนา และผู้บริโภค รวมถึงโครงการอื่นๆ ชนชั้นนำกลุ่มต่างๆ ทหาร ราชการชั้นสูง ก็จะเสียประโยชน์ด้วย ด้านหนึ่งคนกลุ่มนี้จะถูกกำจัดงบประมาณลง

เมื่อพรรคเพื่อไทยหรือพรรคนายทุนพรรคไหนไม่สามารถสร้างความเท่าเทียม ความอยู่ดีกินดี ให้กับชาวนา กรรมาชีพ ในสังคมได้อย่างถาวร สุดท้ายคนจนทั้งหลายก็ต้องมาคิดหาหนทางสร้างพรรคของคนจนขึ้นมาเอง มิเช่นนั้น การถูกปลดแอกจากพลเมืองชั้นล่างจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ถ้าหวังพึ่งพรรคนายทุนที่มีผลประโยชน์ขัดกันกับคนจน แน่นอนมันไม่ง่าย แต่มันก็ไม่อยากเกินไปที่จะทำ และมันน่าจะเป็นทางเลือกเดียวในระยะยาวที่จะสร้างความเสมอภาคได้อย่างแท้ จริง


(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/07/blog-post_11.html  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น