คุณจะมองโลกสวยแค่ไหน ตีความเข้าข้างตัวเองอย่างไร แต่ศาลโลกก็รับการฟ้องร้องจากกัมพูชา และตีความว่า กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่รอบวัด และไทยต้องถอนทหารออกไป
โดย อ.Pavin Chachavalpongpun
คุณจะมองโลกสวยแค่ไหน ตีความเข้าข้างตัวเองอย่างไร แต่ศาลโลกก็รับการฟ้องร้องจากกัมพูชา และตีความว่า กัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่รอบวัด และไทยต้องถอนทหารออกไป
1. การที่ไทยต้องถอนทหารออก นั่นก็ชัดว่า เราไม่มีกรรมสิทธ์ พื้นที่รอบวัดเป็นของเขมร
2. การที่มีหลายคนสรุปว่า ศาลไม่แตะพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ก็ไม่ใช่ เพราะพื้นที่รอบวัดที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเขมรนั้น ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของ 4.6 ตร.กม.ด้วย
...อย่าไปโทษกัมพูชา อย่าไปโทษศาลโลก ถ้าคนไทยไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมืองตั้งแต่แรก ก็คงไม่ต้องตัดสินแบบนี้ ตอนนี้ เรื่องพรมแดนกับเขมรกลายมาเป็นประเด็นการเมืองที่ไม่เปิดโอกาสให้มีการเจรจาทางการทูตแบบ behind the scene อีกต่อไป... ถือเป็นการ set
standard ใหม่ที่ต่อไปนี้ การต่อรองต้องโจ่งแจ้ง ทำให้ขาด room for
manoeuvre ในการเจรจา
ขออีกสเตตัส อึดอัดใจกับเรื่องเขาพระวิหาร ไม่ได้มีความเป็นชาตินิยมบ้าบอหรอก...
แต่เรามาถึงจุดนี้ได้ไง? มันมาถึงจุดนี้เพราะกลุ่มพันธมิตรและพรรคประชาธิปัตย์กวนเรื่องนี้ให้เป็นการเมืองเพื่อล้มระบอบสมัคร โดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
เขมรเอาวัดไปขึ้นทะเบียน ไทยสนับสนุน เรื่องก็จบ
ไม่ได้มีการพูดถึงบริเวณรอบๆ วัดหรือพื้นที่ทับซ้อนทั้งสิ้น
แต่ฝ่ายพันธมิตรเองที่ชูเรื่องที่ทับซ้อน ทำเขมรอารมณ์เสีย เลยส่งกลับไปตีความที่ศาลโลก...
ดังนั้น หากไม่มีการส่งเรื่องไป พื้นที่ก็ยังเบลอๆ แบบนี้ ยังเปิดโอกาสให้คนสองฝั่งข้ามไปมาทำการค้าได้... งามไส้ไหม กวนจนต้องคืนดินแดนให้เขมร???
ศาลโลกตัดสินว่ากัมพูชามีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารตามแผนที่ภาคผนวก 1 และไทยต้องถอนทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว....
ทูตวีรชัย..ตีความว่า เราไม่ได้เสียอะไรเลย (?) และศาลขอให้สองประเทศร่วมกันดูแลปราสาท...
เออ ...ไม่ทราบว่าอ่านการตีความของศาลโลกฉบับเดียวกันไหม หรือมี 2 ฉบับ ฉบับของจริง กับฉบับโลกสวย?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น