สถานการณ์ ฉุกเฉิน ′ไก่′กลัวไหม′ตีนงู′ หรือยิ่ง เรียกแขก
รัฐบาล ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กินระยะเวลา 60 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม ในพื้นที่บังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงเดิม ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี, บางพลี สมุทรปราการ และตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้กำกับดูแลศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.)
ด้วยเหตุผลว่าผู้ชุมนุมประท้วงในการนำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. และพวกกระทำการละเมิดกฎหมายมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดสถานที่ราชการ ธนาคาร และข่มขู่คุกคามไม่ให้ข้าราชการทำงาน ตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการ และบังคับขืนใจข้าราชการให้ทำตามที่ผู้ชุมนุมต้องการ
อีกทั้งมีผู้สร้างสถานการณ์ความรุนแรงกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ที่ ผู้ร่วมแถลงประสานเสียงกันยืนยัน ก็คือ ถึงแม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ก็ยังไม่มีนโยบายที่จะใช้กำลังและอาวุธในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุม
ร.ต.อ. เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่อยากให้เวทีของ กปปส.นำเอาสิ่งที่ไม่เป็นความจริงไปพูดอีกแล้ว จึงมีแนวคิด 5 ข้อ คือ รัฐบาลยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะใช้กฎหมายในการแก้ปัญหา
หากการชุมนุมโดยสงบสันติ ปราศจากอาวุธ จะไม่มีปัญหา แต่ทุกวันนี้เป็นเวทีของการใส่ร้ายป้ายสี
จะไม่ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 อาก้า เข้าสลายการชุมนุม แต่จะปฏิบัติตามหลักสากลขึ้นกับสถานการณ์
ผู้ ชุมนุมและผู้เกี่ยวข้องต้องเคารพสิทธิคนอื่นเช่นเดียวกัน คนที่มีหมายจับต้องเป็นไปตามกฎหมาย นายสุเทพมีข้อหากบฏ ตำรวจสามารถดำเนินการได้
และนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้ ศรส. ว่าให้เน้นการเจรจา และมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบปี 2553 เกิดขึ้นอีก
พล.ท.ภราดร เสริมว่า แม้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่คงไม่ประกาศเคอร์ฟิวหรือการปิดสื่อ ส่วนการเดินขบวนไปปิดสถานที่ราชการเมื่อออกข้อห้ามแล้วก็ไม่สามารถทำได้
เพราะจะมีความผิด
โดยพลัน เหมือนทำการบ้านล่วงหน้า คะเนว่ารัฐบาลจะต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในที่สุด
ใน คืนเดียวกัน ม็อบ กปปส.แสดงปฏิกิริยาท้าทาย ด้วยการประกาศยกระดับการชุมนุม จะทำทุกอย่างที่กฎหมายห้าม ไม่ว่าจะเป็นการขยายพื้นที่ชุมนุม หรือการจัดขบวนเคลื่อนไหวไปยังพื้นที่ละเอียดอ่อน
เช่น บริษัทวิทยุการบิน
และทันที ในเช้า 23 มกราคม นายชุมพล จุลใส ผู้เพิ่งนำกำลังไปบุกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มีคลิปแพร่กระจายไปทั้งเมือง นำกำลังบุกไปเยือนที่ตั้งของ ศรส.
ขณะที่อีกส่วนบุกไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทำให้เกิดคำถามขึ้นโดยทันที ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะมี "น้ำยา" หรือไม่
เพราะนอกจากจะมีผู้คัดค้านด้วยหลักการว่าไม่ควรมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นในยุครัฐบาลใด
ยังมีบางคนตั้งข้อสังเกตไว้ว่า กฎหมายนี้อาจจะยิ่ง "เข้าทาง" ฝ่ายที่จัดการชุมนุม
เพราะช่วย "เรียกแขก" ให้มากยิ่งขึ้น
กระนั้น ก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเห็นสอดคล้องกับที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุ
ว่า การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้คือสถานการณ์ "ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่"
เพราะประเด็นสำคัญในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้อยู่ที่
1.การให้ความคุ้มครองทางกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะเป็นฝ่ายออกหน้า ไม่ใช่ทหารออกหน้า
2.การกุมตัวผู้ฝ่าฝืนกฎหมายได้ทันที โดยไม่ต้องขอหมายจับจากศาล และมีอำนาจฝากขังผลัดละ 7 วัน
คำถามก็คือ ไก่ที่เห็นตีนงู
จะกลัวกฎหมายฉุกเฉิน "ครึ่งใบ" นี้หรือไม่
(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1390465487&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น