หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เอ็งจะข่ม เอ็งจะเหง ไม่ต้องเกรง.....เอ็งเป็นเทวดา......
 
ขุนเขาบอก :

เอ็งจะข่ม เอ็งจะเหง ไม่ต้องเกรง.....เอ็งเป็นเทวดา......

เขื่อนเป็นของใคร ใครเจ้าของเขื่อน
กักเก็บหลายเดือน เขื่อนยังรับไหว
ฝนฟ้ากระหน่ำ ซ้ำเติมเท่าไร
เขื่อนยังรับไหว ไม่ให้ลอยคอ

โดนสนตะพาย เป็นควายทั้งประเทศ
สรุปเบ็ดเสร็จ เป็นเพราะเหตุนี้หนอ
ด้วยเราคนไทย ต้องอยู่ได้ให้เพียงพอ
ต้องเชื่อฟังพ่อ(เมือง) แม้นลอยคอไม่เป็นไร

โป่งแก้มลง โป่งแก้มลิง แม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน
กักน้ำไว้ ไม่ให้ผ่าน ฟ้าประทาน จำได้ไหม
ท่วมจนมิด ติดหลังคา ตอบแทนฟ้า ไม่เป็นไร
เพื่อกรุงเทพ เมืองวิไล น้ำก้อนใหญ่ รับไว้เอง

อยากจะถาม ผ่านสายน้ำ เราเลวทราม มากใช่ไหม
เราก็เป็น เช่นคนไทย แต่ทำไม ไยข่มเหง
หรือเราเป็น แค่ชาวนา เบื้องบนฟ้า ไม่ยำเกรง
จึงต้องนอน ลอยเท้งเต้ง เพื่อพวกเอง สุขสบาย

ด้วยอำนาจ แห่งผลบุญ พุทธคุณ ชินศรี
ขอให้ข้า มีฤทธี จักขับขี่ รุ้งสี่สาย
บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้พ้นทุก ให้ผ่อนคลาย
ให้พวกมัน ที่มุ่งร้าย ให้ตกตาย โดยเร็วพลัน

ใต้อาทิตย์ ดวงเดียวกัน ทำไมมัน ไม่เท่าเทียม
ฝ่ายหนึ่งอยู่ แบบขอดเขียม ฝ่ายหนึ่งเทียม อรหันต์
ฝ่ายหนึ่งอยู่ อย่างวิไล ฝ่ายหนึ่งไพร่ ไม่เทียมกัน
นี่เมืองไทย หรือไรกัน หรือว่ามัน เป็นของใคร

อุเหม่และ อุเหม่ น้ำทะเล มันหนุนสูง
รีบปิดเขื่อน ไม่ให้พุ่ง พยุงน้ำ ไม่ให้ไหล
ใครจะเป็น ใครจะตาย ก็แค่ควาย ไม่เป็นไร
เพื่อคนกรุง ศรีวิไล เหยียบหัวไพร่ เทวดา

เทวดา เทวดี ให้สุขขี ให้สุขขัง
มีแท่นทอง ให้ท่านนั่ง อย่างพร้อมพรั่ง สิเหน่หา
ไม่มีบ่าว ไม่มีไพร่ คนรับใช้ ให้รกตา
เหยียบมนุษย์ ย่ำมนา สูงเทียมฟ้า อาญาเกรง

สรุปได้ เป็นเช่นนี้ เพราะชีวี ไม่เท่าเทียม
ไม่ได้สอด ไม่ได้เสี้ยม ไม่เท่าเทียม ถูกข่มเหง
ต้องทนอยู่ อย่างไพร่ๆ อยู่เบื้องใต้ ตีนของเอง
เอ็งจะข่ม เอ็งจะเหง ไม่ต้องเกรง.....เอ็งเป็นเทวดา.....ไม่รู้จะสรรหาคำไหน เทียบทันได้อีกแล้ว.........



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น