วิกฤตพลิก(ทำลาย)โอกาส น้ำยังไม่ลด..แต่ตอผุด

 




ในห้วง 2-3 ปี ให้หลังมานี้คนไทยเครียดไม่มีวันหยุดจริงๆ จากเดิมที่ก่อนนี้จะพะวงกันเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และปากท้อง เป็นวงจรอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ต้องมากลัดกลุ้มกับวิกฤตน้ำท่วม

แต่คนที่ชื่อ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี คงจะเป็นหนึ่งในบรรดาคนที่กลุ่มคนที่มีดีกรีความกลุ้มในลำดับต้นๆ เพราะรับไม้ต่อจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเมื่อ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ยังสาละวนกับการแก้ไขปัญหาน้ำ
คำพูดที่มักติดปากของอดีตซีอีโอ "ยิ่งลักษณ์" คือพยายามดำเนินการเพื่อ "สร้างความพึงพอใจ" หนีไม่ห่างกับภาษาของนักการตลาดที่พยายามจะดึงลูกค้าหรือผู้ใช้บริการให้ยัง กลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องเพราะ "ติดใจ"

ในมุมคิดของนักการเมืองไม่ได้หนีห่างจากนักการตลาดสักเท่าไรนัก เพราะหากทำให้ "ประชาชน" ติดใจในสินค้าหรือบริการจนเลื่อนขั้นกลายเป็นความจงรักภักดี หรือ "แบรนด์รอยัลตี้" ได้เมื่อไหร่ เชื่อขนมกินได้เลยว่าลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งใดก็ไม่พลาด

แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์น้ำท่วม น้ำไหลหลาก โคลน-ดินถล่ม ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไล่เรียงมาตั้งแต่ภาคเหนือ กระทั่งลุ่มเจ้าพระยาที่มีน้ำท่วมขังกันยาวนาน จนวันนี้น้ำที่ท่วมเริ่มส่งกลิ่นเหม็นฟ้องภาครัฐว่าไม่สามารถจัดการปัญหาได้ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่เศรษฐกิจหลักของจังหวัด นิคมอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ ที่มีระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างดีก็ยังถูกน้ำท่วม ก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่าหลายหมื่นหลายพันล้านบาท นั่นย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่า "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำได้เป็นที่น่าพอใจของประชาชน

(อ่านต่อ)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1318397261&grpid=&catid=02&subcatid=0202