ทำไมทุนนิยมทำให้เอดส์เป็นโรคร้ายแรง
ใจ อึ๊งภากรณ์
ริบบิ้นสีแดง : สัญลักษณ์ของวันเอดส์โลก
คำขวัญวันเอดส์โลกของไทยปีนี้คือ
เอดส์ ตรวจเร็ว ป้องกัน และ รักษาได้
1 ธันวาคม ของทุกปี
คือวันที่รณรงค์เพื่อต่อต้าน
เอดส์โรคร้ายภัยเงียบที่รุกราน
มาคร่าผลาญชีวิตคนไปมากมาย
เอดส์ เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความอ่อนแอของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งเปิดโอกาสให้มีโรคแทรกแซงเข้ามาได้ เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดอาการ “เอดส์” ดังกล่าว เป็นเชื้อโรคชนิด ไวรัส ที่เรียกว่า HIV
เอดส์ เป็นโรคติดต่อ แต่เราค่อนข้างจะติดโรคนี้ได้ยากถ้าเทียบกับโรคอื่นๆ เช่นไข้หวัด หรือตับอักเสบ เพราะ HIV ติดผ่านเลือดและน้ำอสุจิหรือน้ำหล่อลื่นช่องคลอด พูดง่ายๆ ถ้าจะติดเชื้อ HIV ต้องมีการผสมเลือด เช่นเวลาใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น หรือต้องมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง หรือชายกับชาย (เพศสัมพันธ์ระหว่างหญิงสองคนไม่สามารถแพร่เชื้อ HIV ได้) ดังนั้นคนเกือบทั้งหมดที่ติดเชื้อ HIV ในโลก (1)ติดจากการใช้เข็มฉีดสกปรก หรือ(2)ติดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยาง
ถึงแม้ว่าทุกวันนี้เรายังไม่มีวัคซีนเพื่อป้องกันเอดส์ หรือ HIV แต่ แค่การใช้เข็มฉีดยาสะอาด และถุงยาง ก็สามารถปกป้องเราทุกคนจากโรคนี้ได้ ซึ่งทั้งเข็มฉีดยาและถุงยางเป็นของใช้ราคาถูกที่มนุษย์ทุกคนในโลกควรจะเข้า ถึงได้ง่าย
ดังนั้นเราต้องถามคำถามว่า ทำไมคนทั่วโลกถึงติดเชื้อ HIV เป็นจำนวนมาก? ในประเทศไทยคาดว่ามีคนติดเชื้อมากกว่า 700,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละประมาณ 20,000 คน และในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว
โรคเอดส์เมื่อ 20 ปี ก่อนเคยเป็นโรคร้ายแรงที่ไม่มีวิธีรักษา พอเป็นแล้วตาย แต่ปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่นักวิทยาศาสตร์ และแพทย์ทั่วโลกได้ค้นพบวิธีบริหารโรคนี้ เพื่อไม่ให้คนไข้ตายได้ โดยใช้ยาฆ่าเชื้อไวรัส (Anti-Retro Viral Drugs) หลายชนิดผสมตามสูตร เราสามารถพูดได้ว่าคนติดเชื้อ HIV ที่เข้าถึงการบริการทางแพทย์สมัยใหม่และยาฆ่าไวรัส สามารถมีชีวิตรอดเป็นสิบๆ ปีได้ เหมือนกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับโรคเบาหวาน
http://www.google.dk/search?q=data5.blog.de%2Fmedia%2F...%2F3348961_223eae8460_d&ie=utf-8&oe=utf-8&aq=t&rls=org.mozilla:da:official&client=firefox-a
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น