หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555

หากเหลือ ′แพร่ง′ เดียว




พรรคเพื่อไทย เดินมาถึงทาง 2 แพร่ง

แพร่งแรก แก้รัฐธรรมนูญเลย

แพร่งสอง ทอดเวลาแก้รัฐธรรมนูญออกไป

สัมผัสได้ถึง ความลังเล และไม่ตกผลึก อย่างสูง

จึงไม่แจ่มชัดนักว่า พรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจขับเคลื่อนอย่างไร

จะเอาอย่างไรก็ว่ามา วันเวลาไม่คอยท่า

ยิ่งหาก ทำตาม "ตุ๊กตา" ที่วางไว้ คือ ทั้งตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งทำประชาพิจารณ์ ทั้งทำประชามติ ต้องใช้เวลาร่วมปี

ยาวนานยิ่งจึงควรตัดสินใจให้ชัดจะเอาอย่างไร

หากเลือกจะทอดเวลาออกไป ก็ไปทำความเข้าใจกับ "มวลชน" ที่สนับสนุนเสีย

จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะ หรือตั้งป้อมใส่กัน จนกลายเป็นเงื่อนไขแห่งความไม่แน่นอนทางการเมืองขึ้นมาอีก

แต่หากตัดสินใจเดินไปใน "แพร่ง" ที่จะแก้รัฐธรรมนูญเลย

ก็อยากให้ชัดเจน เปิดเผย ตรงไปตรงมา

ถึงตรงนี้ ขออนุญาตสนับสนุนท่าทีฝ่ายค้าน ที่แสดงผ่านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน สักหน่อย

นายจุรินทร์ว่าไว้อย่างนี้

"ต้องถามรัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร เมื่อประกาศเป็นนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องกล้าหาญพอจะเป็นเจ้าภาพ และรับผิดชอบกับผลที่ตามมา"

"ไม่ใช่รัฐบาลแถลงนโยบายเสร็จปล่อยให้สภาและประชาชนและกลไกอื่นๆ"

"หากเป็นอย่างนี้เป้าหมายหลักของรัฐบาลคือ อยากได้แต่ไม่กล้าพอที่จะรับผิดชอบ"

"ดังนั้น รัฐบาลต้องนับหนึ่งเอง เป็นเจ้าภาพเอง"

"รัฐบาลต้องกล้าประกาศตัวไม่ควรเป็นอีแอบหลังกลุ่มต่างๆ ที่จัดตั้งมาแล้วก็ได้ประโยชน์ด้วย"

"ดังนั้น เราเรียกร้องมาตลอดถ้าเป็นนโยบายของรัฐบาลก็ต้องให้รัฐบาลกล้าประกาศตัวเป็นเจ้าภาพเองในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ"
 

ถูกต้องเลย ถ้าจะแก้ รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพ

(อ่านต่อ) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326110483&grpid=&catid=02&subcatid=0207

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น