ปิยบุตร แสงกนกกุล: บทเรียนรอบโลก การปรับตัวของสถาบันกษัตริย์
เสวนาในงานแขวนเสรีภาพฯ ปิยบุตรอภิปรายเรื่องบทบาทและพัฒนาการของสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ในประเทศต่างๆ รวมถึงที่มา ความหมายของ “เอกสิทธิ์” ของกษัตริย์ ล่วงละเมิดไม่ได้ภายใต้เงื่อนไข
การอภิปรายโดยปิยบุตร แสงกนกกุล เมื่อ 18 มีนาคม 2555 ในงาน "แขวนเสรีภาพ" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว [ช่วงแรก]
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=ny6zSSn1728
การอภิปรายโดยปิยบุตร แสงกนกกุล เมื่อ 18 มีนาคม 2555 ในงาน "แขวนเสรีภาพ" ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว [ช่วงที่สอง]
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=oZJg6pb0rJU
ประเทศที่ยังมีกษัตริย์เป็นประมุข
ประเทศที่เป็นกษัตริย์ประมุขของรัฐ
หรือมีประมุขที่สืบทอดทางสายโลหิต ปัจจุบันเหลืออยู่ไม่กี่ประเทศ
หากนับแบบอาจารย์เบน แอนเดอร์สัน ก็นับเหลือ 27 แต่ถ้ารวมประเทศหมดเล็กๆ
น้อยๆ ให้หมดก็นับได้ 40 ประเทศ แต่จะเหลือแค่ไหน
ไม่สำคัญเท่ากับประเทศที่เป็น Monarchy นั้นลดลงอย่างมาก
ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา ในยุโรป ช่วงปี 1918 มีเพียง 3
ประเทศที่เป็นสาธารณรัฐ คือ ฝรั่งเศส โปรตุเกส และสวิสเซอร์แลนด์
ที่เหลือมีกษัตริย์ทั้งหมด หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่1
ปรากฏว่าในยุโรปมีประเทศที่สาธารณรัฐมี 15 รัฐ ส่วนอีก 15
รัฐนั้นมีกษัตริย์ หลังจากนั้นตั้งแต่ 1931 ประเทศต่างๆ
ในยุโรปเป็นสาธารณรัฐมากขึ้น อย่างสเปนก็เอาสาธารณรัฐกลับมา
ปัจจุบันก็เอากษัตริย์กลับมาอีก
ส่วนอิตาลีมีการทำประชามติว่าจะให้ระบบกษัตริย์คงอยู่ไหม ผลปรากฏว่าไม่เอา
พวกยุโรปตะวันออกนั้นก็เลิกสถาบันกษัตริย์หมด ปัจจุบันเหลือ 10
ประเทศที่มีกษัตริย์ในยุโรป คือ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก
เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน อังกฤษ สเปน ลิกเตนสไตน์ โมนาโค
เท่าที่ดู ประเทศที่รื้อฟื้นเอาสถาบันกษัตริย์กลับมานั้นน้อยมาก
เท่าที่เห็นมีสเปนและกัมพูชา
ปัญหาอยู่ที่ว่าเหตุใดหลายประเทศยกเลิกสถาบันกษัตริย์ไป
เพราะกษัตริย์เป็นอุปสรรคของประชาธิปไตยหรือเปล่า
หรือกาฝากของสังคมหรือเปล่า
และเหตุใดบางประเทศยังรักษาสถาบันกษัตริย์เอาไว้ได้
มันจึงแบ่งเป็นประเทศที่ สถาบันฯ ปรับตัว อยู่รอดปลอดภัยได้ กับ ประเทศที่สถาบันฯ ปรับตัวไม่ได้แล้วหายไป
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/03/39717
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น