กลับมาสู้ความจริงเถิด “ทักษิณ” ไม่ต้องปรองดอง ไม่ต้องนิรโทษกรรม ไม่ต้องอภัยโทษ
เห็นข่าวเรื่องปรองดอง
เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ยังคงวนเวียนและก้าวไม่พ้นอดีตนายกทักษิณฯ อยู่ทุกวี่ทุกวันแล้ว
ทำให้นึกถึงเหล่าบรรดานักการเมือง
ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตลอดจนเหล่าบรรดาขุนทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ทั้งที่ยังรับราชการอยู่ในปัจจุบันและเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังบ้าอำนาจอยู่
ที่เคยผ่านการ ถวายสัตย์ปฏิญาณ กันมาแล้ว ขอถามว่า คำ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ยังคงฝังอยู่ในหัวกะโหลกของตัวเองอยู่หรือไม่
หรือคิดแต่เพียงว่า ถวายสัตย์ปฏิญาณ ไปงั้นๆ
มิน่าเล่าประเทศไทยมันถึงได้ลุกเป็นไฟไปทุกหย่อมหญ้า
แล้วอย่างนี้พวกท่านทั้งหลายยังกล้าอีกหรือ ยังกล้าที่จะอ้างความรัก หวงแหน
และเทอดทูนสถาบัน มากกว่าคนอื่น มากกว่าตาสีตาสา ยายมียายมา
ชาวรากหญ้าบ้านนอกคอกนา อย่างตัวกระผม อีกหรือ
ต้องยอมรับความจริงว่า
บ้านเมืองที่มันฉิบหายวายวอดอยู่ทุกวันนี้ มันเกิดจากกลุ่มดังกล่าวข้างต้น
มันไม่เคยเกิดจากประชาชนทั้งประเทศเลยสักครั้ง แต่..... ณ ปัจจุบันนี้
ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ตื่นขึ้นจากภวังค์อันชั่วร้ายแล้ว
และจะทำหน้าที่ในการชี้เป็นชี้ตายของเหล่าบรรดา นักการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
ตลอดจนเหล่าบรรดาขุนทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ทั้งที่ยังรับราชการอยู่ในปัจจุบันและเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังบ้าอำนาจอยู่
ก่อนที่จะพูดถึงเรื่อง
กลับมาสู้ความจริงเถิด “ทักษิณ” ขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯบางเรื่องบางตอน มาเป็นอุทาหรณ์แก่บรรดาคณะกรรมการ
หรือคณะปรองดองสมานฉันท์ที่มีอยู่ไม่รู้ว่ากี่คณะ รวมถึง นักการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
ตลอดจนเหล่าบรรดาขุนทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ทั้งที่ยังรับราชการอยู่ในปัจจุบันและเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังบ้าอำนาจอยู่ ได้พึงสำเหนียกจดจำใส่กระโหลกไว้
เผื่อจะได้เห็นแนวทางการปรองดองที่แท้จริง
(อ่านต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น