หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

กลับมาสู้ความจริงเถิด “ทักษิณ” ไม่ต้องปรองดอง ไม่ต้องนิรโทษกรรม ไม่ต้องอภัยโทษ

กลับมาสู้ความจริงเถิด “ทักษิณ” ไม่ต้องปรองดอง ไม่ต้องนิรโทษกรรม ไม่ต้องอภัยโทษ

 


 

เห็นข่าวเรื่องปรองดอง เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ยังคงวนเวียนและก้าวไม่พ้นอดีตนายกทักษิณฯ อยู่ทุกวี่ทุกวันแล้ว ทำให้นึกถึงเหล่าบรรดานักการเมือง  ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตลอดจนเหล่าบรรดาขุนทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งที่ยังรับราชการอยู่ในปัจจุบันและเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังบ้าอำนาจอยู่ 

ที่เคยผ่านการ ถวายสัตย์ปฏิญาณ กันมาแล้ว  ขอถามว่า คำ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ยังคงฝังอยู่ในหัวกะโหลกของตัวเองอยู่หรือไม่ หรือคิดแต่เพียงว่า ถวายสัตย์ปฏิญาณ ไปงั้นๆ

มิน่าเล่าประเทศไทยมันถึงได้ลุกเป็นไฟไปทุกหย่อมหญ้า แล้วอย่างนี้พวกท่านทั้งหลายยังกล้าอีกหรือ ยังกล้าที่จะอ้างความรัก หวงแหน และเทอดทูนสถาบัน มากกว่าคนอื่น มากกว่าตาสีตาสา ยายมียายมา ชาวรากหญ้าบ้านนอกคอกนา อย่างตัวกระผม อีกหรือ
                                
ต้องยอมรับความจริงว่า บ้านเมืองที่มันฉิบหายวายวอดอยู่ทุกวันนี้ มันเกิดจากกลุ่มดังกล่าวข้างต้น มันไม่เคยเกิดจากประชาชนทั้งประเทศเลยสักครั้ง แต่..... ณ ปัจจุบันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้ตื่นขึ้นจากภวังค์อันชั่วร้ายแล้ว และจะทำหน้าที่ในการชี้เป็นชี้ตายของเหล่าบรรดา นักการเมือง  ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตลอดจนเหล่าบรรดาขุนทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งที่ยังรับราชการอยู่ในปัจจุบันและเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังบ้าอำนาจอยู่  

ก่อนที่จะพูดถึงเรื่อง  กลับมาสู้ความจริงเถิด ทักษิณ ขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯบางเรื่องบางตอน มาเป็นอุทาหรณ์แก่บรรดาคณะกรรมการ หรือคณะปรองดองสมานฉันท์ที่มีอยู่ไม่รู้ว่ากี่คณะ รวมถึง นักการเมือง  ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตลอดจนเหล่าบรรดาขุนทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งที่ยังรับราชการอยู่ในปัจจุบันและเกษียณอายุไปแล้วแต่ยังบ้าอำนาจอยู่   ได้พึงสำเหนียกจดจำใส่กระโหลกไว้ เผื่อจะได้เห็นแนวทางการปรองดองที่แท้จริง
 
 
(อ่านต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น