หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

จดหมายเปิดผนึก คัดค้าน พ.ร.บ. ปรองดองฉบับหัวหน้าคณะรัฐประหาร 2549

จดหมายเปิดผนึก คัดค้าน พ.ร.บ. ปรองดองฉบับหัวหน้าคณะรัฐประหาร 2549

 

ACT4DEM 

แอคชั่นเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย



28 พฤษภาคม 2555
เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน


คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ประกาศยึดประเทศและโค่นรัฐบาลที่ได้รับการเลือกต้ังมาจากประชาชนในเวลา 22.54 น.​ คืนวันที่ 19 กันยายน 2549 และเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเวลาเกือบเที่ยงคืน  ในวันที่ 20 กันยายน คปค. ออกประกาศฉบับที่ 3/2549 ให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 สิ้นสุดลง ให้วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ สิ้นสุดลงพร้อมกับ รัฐธรรมนูญ ให้คณะองคมนตรีดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ให้ศาลคงอำนาจหน้าที่ต่อไป ในวันที่ 22 กันยายน เวลา 12.00 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถ่ายทอดเทปบันทึกภาพ พิธีรับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข และในวันที่  1 ตุลาคม คปค. ประกาศใช้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2549 ทั้งนี้ในมาตรา 37  ระบุนิรโทษกรรคผู้ก่อการรัฐประหารทั้งหมด “ไม่ว่าเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่าง อื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดย สิ้นเชิง”

นี่คือธรรมเนียมปฏิบัติของการรัฐประหารในประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งที่ 9 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ผ่านไป 6 ปี นอกจากไม่มีผู้ร่วมในการทำการรัฐประหารโค่นกระบวนการประชาธิปไตยแม้แต่คน เดียว(อีกครั้งหนึ่งแล้ว) ได้รับโทษจากการล้มล้างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ หัวหน้าคณะรัฐประหารยังได้ก่อตั้งพรรคการเมืองและนั่งอยู่ในสภาในฐานะ "ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ (กมธ.ปรองดอง) สภาผู้แทนราษฎร" โดยขณะนี้ได้ชงร่าง "พระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ" ที่ระบุว่า “ อันเป็นไปตามประเพณีที่ประเทศไทยเคยปฏิบัติมาแล้วหลายครั้งและเป็นไปตาม มาตรฐานสากลด้วยการนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดอันมีสาเหตุจากความขัดแย้ง ทางการเมืองที่ได้กระทำระหว่างวันที่ 15 กันยายน 2548 จนถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2554”

 

(อ่านต่อ)

 http://www.prachatai.com/journal/2012/05/40747

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น