หน้าเว็บ

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ว่างงานยูโรโซนสูงทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ คาดอีซีบีหั่นดอกเบี้ย 0.25 %ช่วยแบงก์

ว่างงานยูโรโซนสูงทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ คาดอีซีบีหั่นดอกเบี้ย 0.25 %ช่วยแบงก์

 

 

ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ว่า เป็นที่คาดการณ์ในวงกว้างว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในสัปดาห์นี้เพื่อพยายามสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับ เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) ที่กำลังป่วยหลังจากที่อัตราการว่างงานในภูมิภาคไต่ขึ้นสู่ระดับสูงที่สุด เป็นประวัติการณ์ และผลสำรวจภาคการผลิตสำคัญแสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมอยู่ในสภาพอ่อนแอที่ สุดในรอบ 3 ปี

ความสนใจต่อบทบาทของอีซีบีในการช่วยเหลือยูโรโซนให้หลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ได้ข้อสรุปว่าอีซีบีควรจะรับบทบาทในการควบคุมดูแลธนาคารพาณิชย์ของยูโรโซน นอกจากนี้ บรรดาผู้นำยังสนับสนุนมุมมองของนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ที่ว่ากองทุนให้ความช่วยเหลือของยูโรโซนควรจะให้เงินช่วยเหลือกับธนาคารที่ ประสบปัญหาโดยตรง

มีนักวิเคราะห์จำนวนไม่มากที่คาดหวังว่าอีซีบีจะให้ความช่วยเหลือโดยตรง แก่ธนาคารหรือรัฐบาลในรูปแบบเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือการซื้อพันธบัตรเพิ่มอีก ในสัปดาห์นี้ ทว่าตลาดหุ้นมีปฏิกิริยาในแบบที่มีแนวโน้มว่าอีซีบีจะตอบสนองต่อข้อมูลทาง เศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือระดับต่ำ กว่า 1 เปอร์เซ็นต์ เป็นครั้งแรก เป็นการช่วยเหลือธนาคารของยูโรโซนที่ต้องพึ่งพาการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลาง โดยทางอ้อม

"การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 จุด ดูเหมือนว่าเกือบจะเป็นเรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว" คาร์สเทน เบอร์เซสกี้ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของไอเอ็นจีในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมระบุไว้ในผลวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม
ดรากี ได้ส่งเสียงเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นของภาพรวมทางเศรษฐกิจ และนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนคิดว่าอีซีบีควรจะต้องพิจารณาถึงมาตรการที่แข็ง กร้าวมากกว่านี้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50 จุด

จูเลียน คัลโลว์ นักเศรษฐศาสตร์ยุโรปของบาร์เคลย์ส บอกว่า "สถานการณ์อยู่ในสภาวะทางลบมากพอที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นมากขึ้นกว่านี้อย่างเห็นได้ชัด"

สำนักงานสถิติของอียูเปิดเผยวันเดียวกันนี้ว่า ตัวเลขการว่างงานของยูโรโซนเพิ่มเป็น 11.1 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของเขตเศรษฐกิจสกุลเงินร่วม โดยอัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้นในสเปน ซึ่งอยู่ในระดับที่เกือบ 1 ใน 4 คนไม่มีงานทำ โดยทั่วทั้งยูโรโซน จำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นราว 1.8 ล้านคนในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งคนว่างงานที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ในสเปนและกรีซมีมากกว่า 52 เปอร์เซ็นต์

เบอร์เซสกี้บอกว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ "ต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยในประเทศยูโรโซนมากเป็นประวัติการณ์" ยกเว้นเพียงแค่ในเยอรมนี ซึ่งอัตราว่างงานยังคงต่ำ ทว่าความเชื่อมั่นก็ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน โดยภาคการผลิตของเยอรมนีหดตัวลงด้วยอัตราเร็วที่สุดในรอบ 3 ปี ในเดือนมิถุนายน อ้างอิงจากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ของบริษัทมาร์กิต

(ที่มา)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1341365049&grpid=&catid=06&subcatid=0600

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น