หน้าเว็บ

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความแตกแยกในสยามประเทศ "ร้าวลึก-เละเทะ" เกินกว่าจะแก้ไขเยียวยา

ความแตกแยกในสยามประเทศ "ร้าวลึก-เละเทะ" เกินกว่าจะแก้ไขเยียวยา

 



พลันที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านบุกขึ้นไปกระชากตัวท่านประธานสภา ผู้เป็นประมุขด้านนิติบัญญัติ ขณะนั่งปฏิบัติหน้าที่บนบัลลังก์ในสภาอันทรงเกียรติ ประเทศไทยก็เป็นอัน "จบเห่" นับแต่วินาทีนั้น

กิริยาอาการแลพฤติกรรมของสมาชิกสภา (ผู้ทรงเกียรติ) แต่ละท่าน เปรียบประหนึ่งฝูงอสูรกายที่พุ่งเข้าตะปบเหยื่ออันโอชะซึ่งวางอยู่ตรงหน้า แววตาถมึงทึง ส่งเสียงดังคุมสติเอาไว้ไม่อยู่ (แม้จะผ่านมาหลายเพ-ลาแล้วภาพก็ยังติดตาตรึงใจชัดเจน)...สะท้อนให้เห็นถึง วุฒิภาวะทางอารมณ์และระดับสติปัญญาที่แทบไม่ต้องวิจารณ์ให้เปลืองน้ำหมึกว่า สูงส่งอยู่ในขั้นใด

เมืองไทยนั้น "เรียบร้อย" ไปแล้วครับ...ภาษานักเลงเรียกว่า "ช้อยเก็บฉาก"

สยาม ประเทศเริ่มเข้าสู่วิกฤตความร้าวฉาน เมื่อประมาณปีพุทธศักราช 2548 ก่อนหน้าการทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการ ซึ่งขณะนั้นได้ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน

กระแส "ความเกลียดชังกันและกัน" ของคนไทยได้เริ่มคุกรุ่นขึ้น เมื่อมีการโหมฟืนสุมไฟ "ไม่ยอมรับ" รัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่ในเวลานั้น ซึ่งก็คือรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ความ "ผิดพลาด" ที่ชาวสยามต้องรับวิบากกรรมร่วมกัน คือการที่คนไทยส่วนหนึ่ง ยอมให้ทหารยกกำลังออกมา "ยึดอำนาจ" ของตน แทนการออกไปใช้อำนาจในคูหาเลือกตั้งที่กำหนดวันไว้แล้ว หลักฐานก็คือพวกเขาได้แสดงความยินดีปรีดาด้วยการออกไปโห่ร้องต้อนรับคณะยึด อำนาจประหนึ่งคนพวกนั้นเป็นวีรบุรุษที่เพิ่งกลับจากสงคราม!

แล้วสยาม ประเทศก็แตกออกเป็น 2 เสี่ยง แบ่งคร่าวๆ เป็น "คนเกลียดทักษิณ" กับ "คนรักทักษิณ" และอาจจะมี "ผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด" อีกจำนวนหนึ่ง

แต่จะไม่นำมาเป็นประเด็นในการเขียนบทความชิ้นนี้

 

(อ่านต่อ)http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1341373694&grpid=&catid=02&subcatid=0200

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น