นักศึกษาชิลียึดโรงเรียนประท้วง ร้องรื้อระบบการศึกษาให้เป็นธรรม
นักเรียนและนักศึกษาในชิลีหลายร้อยคนถูกสลายการชุมนุมวานนี้
หลังยึดโรงเรียนในกรุงซานติเอโกหลายแห่งและปิดถนนเพื่อกดดันให้รัฐบาลเพิ่ม
งบประมาณหนุนการศึกษาและยกเลิกการแปรรูปมหาวิทยาลัย
15 ส.ค. 55 - นักศึกษาหลายร้อยคนในกรุงซานติเอโก เมืองหลวงของประเทศชิลี
ทำการประท้วงโดยยึดโรงเรียนหลายแห่ง และปิดถนนหลายเส้นใจกลางเมือง
เพื่อประท้วงรัฐบาลให้ปฏิรูประบบการศึกษาระดับมัธยมและมหาวิทยาลัยให้
ประชาชนสามารถมีสิทธิเข้าถึงได้มากขึ้น
มีรายงานว่าตำรวจได้เข้าสลายการชุมนุมแล้ววานนี้
แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงยึดโรงเรียนประท้วงได้อย่างน้อย 7 แห่ง
นักศึกษาชิลีซึ่งได้ประท้วงกันต่อเนื่องโดยการหยุดเรียนช่วงอาทิตย์ที่
ผ่านมา เรียกร้องให้รัฐบาลรื้อและปฏิรูประบบการศึกษาในประเทศ
ซึ่งส่วนใหญ่ถูกแปรรูปในสมัยเผด็จการของพลเอกออกุสโต ปิโนเชต์
ปกครองชิลีตั้งแต่ปี 2516- 2533
ทำให้ค่าเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยและมัธยมมีค่าใช้จ่ายที่สูง
โดยมีนักเรียนร้อยละ 45 เท่านั้นที่เรียนอยู่ในโรงเรียนของรัฐบาล
โดยมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในชิลีเป็นของเอกชน
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน รัฐบาลชิลีมีงบประมาณสนับสนุนด้านการศึกษา
คิดเป็นร้อยละ 4.4 ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เท่านั้น
โดยต่ำกว่ามาตรฐานของสหประชาชาติที่กำหนดไว้ร้อยละ 7
ผู้ชุมนุมกล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาของคุณภาพการศึกษาที่ตกต่ำ
คุณภาพอาจารย์และครูที่ไม่ดีเท่าที่ควร ค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยที่สูง
และการให้กู้เงินด้านการศึกษาของธนาคารทีมีดอกเบี้ยสูงเกินไป
ทำให้เยาวชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาได้เนื่องจากไม่มี
เงินเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีของชิลี เซบาสเตียน ปิเนร่า
ปฏิเสธข้อเรียกร้องของนักศึกษาชิลีที่ให้ปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ
และยื่นข้อเสนอจะตั้งกองทุนการศึกษาราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งให้ทุนการศึกษา และลดดอกเบี้ยเงินกู้การศึกษาจากร้อยละ 6 เป็นร้อยละ 2
แทน โดยเขากล่าวว่า
นโยบายดังกล่าวจะทำให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงสถาบันการศึกษาได้มากขึ้น
ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ผู้นำนักศึกษายังไม่พอใจ และชี้ว่า
การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นต่อเมื่อภาคเอกชนถูกควบคุมโดยรัฐ
และการหยุดทำให้การศึกษาเป็นธุรกิจเพื่อการค้ากำไร
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42075
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น