นักวิชาการฟันธงมีการใช้สไนเปอร์สลายม็อบแดง
นักวิชาการฟันธงมีการใช้สไนเปอร์สลายม็อบแดง ชี้
ศอฉ.ไม่ได้ควบคุมการใช้อาวุธกับฝูงชนให้เป็นไปตามหลักสากล
อัดโยนชายชุดดำแค่ปัดความรับผิดชอบ
ศปช.เปรียบ สลายการชุมนุมเม.ย.-พ.ค.53เป็นอาชญากรรมที่รัฐทำต่อปชช.
http://news.voicetv.co.th/thailand/47940.html
ศปช.เปรียบ สลายการชุมนุมเม.ย.-พ.ค.53เป็นอาชญากรรมที่รัฐทำต่อปชช.
http://news.voicetv.co.th/thailand/47940.html
วันนี้ ( 19 ส.ค.) ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ อาคารอเนกประสงค์ชั้น 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุมเม.ย.-พ.ค.53 ( ศปช.) เปิดแถลงรายงาน“ความจริงเพื่อความยุติธรรม: เหตุการณ์และผลกระทบจากการสลาย การชุมนุม เมษา-พฤษภา 53 โดยมีการนำหลักฐาน เอกสารพร้อมภาพถ่ายต่างๆที่รวบรวมตลอดระยะเวลา 2 ปี มายืนยัน พร้อมระบุว่าทหารได้ใช้กำลังอาวุธสลายการชุมนุม ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ดร.บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ รามคำแหง
กล่าวว่าผังล้มเจ้าทำให้คนในสังคมเชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุม
มีวัตถุประสงค์ที่จะล้มล้างสถาบัน
สังคมจึงเกิดความเพิกเฉยในการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง
สิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์เม.ย.-พ.ค.53 จึงไม่ได้แค่เป็นการกระชับวงล้อม
แต่เป็นการปฏิบัติการทางทหารต่อประชาชน ระดับยุทธการการรบ
กรณีการเสียชีวิตของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
หรือเสธแดง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง
หลังจากนั้นการดำเนินการของผู้ชุมนุมเป็นไปเพื่อการป้องกันพลซุ่มยิง
จากข่าวที่ผ่านมาที่กองทัพออกมาบอกว่าไม่มีสไนเปอร์
เรื่องนี้ควรยอมรับความจริง
เพราะภาพและเอกสารต่างๆที่ออกมานั้นมีความชัดเจน
ด้าน ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
มหาวิทยาลัยมหิดล สิ่งที่น่ากลัวในการสลายการชุมนุมครั้งนี้
คือมีคนส่วนหนึ่งในสังคมเห็นชอบ
ทั้งเรียกร้องให้มีการจัดการผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด
จากรายงานของการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม บางรายไม่สมควรจะถูกยิง
เช่นญาติของนักร้องชื่อดัง ที่ถูกยิงบนอาคารสูง
ทำให้มองว่าเป็นการปฏิบัติการทางทหารที่สะเปะสะปะ
ยิงคนตายและบาดเจ็บโดยไม่มีเหตุผล ส่วนการที่
ผบ.ทบ.ออกมาปฏิเสธและไม่พอใจที่มีการพูดว่าทหารใช้อาวุธสลายการชุมนุมนั้น
เป็นการปฏิเสธที่ตลกแบบขำไม่ออกมากกว่า และไม่น่าเชื่อที่ คนเป็น
ผบ.ทบ.จะพูดว่าเป็นยิงนกไม่ใช่สไนเปอร์
อยากให้ควบคุมอารมณ์มากขึ้นจะได้เห็นความจริง
น.ส.ขวัญระวี วังอุดม
อาจารย์สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า
จากการวิเคราะห์เหตุการณ์จากหลักฐานที่เป็น ศอฉ.
เอกสารการประกอบการชันสูตรพลิกศพ ฯลฯ
พบว่ามีการใช้กระสุนจริงยิงผู้ชุมนุมมือเปล่าจนเสียชีวิตจำนวนมาก โดย
ศอฉ.ไม่ได้ควบคุมการใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมให้เป็นไปตามหลักสากล
ทั้งไม่เคยมีหลักฐานยืนยันว่ามีชายชุดดำจริง
การที่โยนความผิดทุกอย่างให้ชายชุดดำถือเป็นเรื่องไร้ความรับผิดชอบ
การอ้างว่ามีชายชุดดำและกองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่
ทำให้สังคมเชื่อและต้องการขจัดให้หมดไป
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้หากสังคมจะเดินต่อไปได้ ต้องสร้างความจริงให้ปรากฏ
นำคนที่ผิดมาลงโทษ สร้างบรรทัดฐานให้สังคมว่า
การกระทำของรัฐนั้นหากมีผู้เสียชีวิต
ก็จะต้องมีคนรับความผิดและถือว่าการกระทำครั้งนี้ของทหารเป็นรูปแบบเดียวกับ
เหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ทหารทำเกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุม
เรื่องนี้ไม่ควรมีการนิรโทษกรรมแบบเหวี่ยงแห
เพราะเหตุการณ์นี้ต้องมีผู้รับผิดชอบอย่าทำให้เหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลา 19
และ 14 ตุลา 16 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ซึ่งสังคมไทยไม่ได้ผระโยนช์และไม่เกิดการเรียนรู้.
(ที่มา)
http://www.dailynews.co.th/politics/150264
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น