ชาวฟูกุชิมาบอก 'ไม่เอา' นิวเคลียร์ หลังรบ. ทำเวทีประชาพิจารณ์
ประชาชนชาวฟูกุชิมากว่า 90% คัดค้านการเปิดใช้โรงงานนิวเคลียร์อีกครั้ง
เหตุยังเกรงภัยซ้ำซ้อนจากวิกฤติการณ์โรงงานนิวเคลียร์ระเบิดเมื่อปีที่แล้ว
โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาประชาชนหลายหมื่นคนได้เดินขบวนคัดค้านหน้ารัฐสภา
เพื่อคัดค้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ด้วย
1 ส.ค. 55 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า
หลังจากที่ทางการญี่ปุ่นได้จัดทำเวทีประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น
เรื่องนโยบายพลังงานที่เมืองฟูกุชิมาในวันนี้
ประชาชนฟูกุชิมาต่างแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์
และต้องการให้ยุติการใช้โรงงานนิวเคลียร์
เหตุยังกลัวซ้ำรอยการระเบิดของโรงงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมาหลังเกิดคลื่นสึนามิ
ในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
"ฉันต้องการให้โรงงานนิวเคลียร์ทุกแห่งในญี่ปุ่นปิดลงและยุติการทำงานโดย
ทันที" ผู้หญิงผมสีเทาคนหนึ่งกล่าวในเวทีประชาพิจารณ์
เธอแนะนำตนเองว่าเป็นชาวนาที่อยู่ห่างไปจากโรงงานฟูกุชิมาไป 65 กิโลเมตร
"ตอนนี้คนหลายคนได้รู้แล้วว่า คำที่รัฐบาลบอกว่า
'ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพในทันที' ที่จริงแล้วมันหมายถึง
'ความเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว' ต่างหาก" เธอพูด
ตามด้วยเสียงปรบมือของคนอีก 200 คนในเวทีประชาพิจารณ์ในฟูกุชิมา
ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นได้จัดทำเวทีประชาพิจารณ์ทั้งหมด 11
แห่งทั่วประเทศ โดยจัดที่เมืองฟูกุชิมาเป็นครั้งที่ 9
เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าด้วยเรื่องนโยบายพลังงานของประเทศ
โดยมีสามตัวเลือกเป็นข้อเสนอแก่ประชาชน ได้แก่ 1)
เลิกการใช้พลังงานนิวเคลียร์ทั้งหมด โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 2)
ให้ใช้พลังงานนิวเคลียร์คิดเป็นร้อยละ 15 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี
2030 หรือ 3) ให้ใช้พลังงานนิวเคลียร์คิดเป็นร้อยละ 20-25
ของพลังงานทั้งหมดภายในปี 2030
โดยผลที่ออกมาพบว่า
ประชาชนชาวฟูกุชิมาได้เลือกตัวเลือกแรกกันอย่างถล่มทลาย ในขณะที่
หนังสือพิมพ์อาซาฮีของญี่ปุ่นรายงานว่า ร้อยละ 70
ของประชาชนชาวญี่ปุ่นที่ได้เข้าร่วมในเวทีความคิดเห็นในที่อื่นๆ
เลือกที่จะไม่ให้มีการใช้พลังงานนิวเคลียร์เลย แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า
ผลการประชาพิจารณ์ที่ออกมาจะมีผลอย่างไรต่อการกำหนดนโยบายพลังงานที่อาจจะ
ออกมาภายในเดือนนี้
มีรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ประชาชนชาวญี่ปุ่นหลายหมื่นคนได้ออกมาเดินขบวนประท้วงคัดค้านการใช้พลังงาน
นิวเคลียร์บริเวณหน้ารัฐสภา และตะโกนคำขวัญว่า "ไม่เอาการเปิดโรงงาน"
หลังจากที่เท็ตสึนาริ ลิดะ ผู้สมัครในการเลือกตั้งผู้ว่าจังหวัดยามากูจิ
ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน พ่ายแพ้ให้การเลือกตั้งให้กับ
ชิเกทาโร่ ยามาโมโต จากพรรค Liberal Democratic Party
ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์
ผู้สังเกตการณ์บางส่วนมองว่า การประท้วงดังกล่าว
เป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
โดยมีการคาดการณ์จำนวนผู้เข้าร่วมจากผู้จัดงานตั้งแต่ 200,000 คน ไปจนถึง
14,000 คนจากการประมาณการณ์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
"คนพวกนี้ได้รวมกันและต้องการที่จะมีเสียงของตนเอง" โชจิ กิตาโน ชายวัย
64 ซึ่งเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ที่เกษียณแล้ว กล่าว เขาระบุว่า
ตนไม่เคยเห็นการประท้วงที่ใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 และย้ำว่า
คนญี่ปุ่นทั่วไปไม่ได้นิยมการออกมาประท้วง
แต่สำหรับการเปิดโรงงานนิวเคลียร์แล้ว พวกเขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
หลายเดือนที่ผ่านมา ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์
ได้จัดการชุมนุมบริเวณหน้าสำนักงานของนายกรัฐมนตรีโนดะในทุกๆ วันศุกร์
โดยมีจำนวนผู้ชุมนุมคัดค้านมากขึ้นเรื่อยๆ จากพันคนเป็นจำนวนหลายหมื่นคน
โดยมีผู้สูงอายุวัยเกษียนอายุ คนทำงานออฟฟิศ และครอบครัวซึ่งนำพาเด็กๆ
มาด้วย
โดยเมื่อเดือนที่แล้ว นายกฯ โนดะ
ได้อนุมัติให้โรงงานนิวเคลียร์สองแห่งที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเปิดดำเนินการ
อีกครั้ง เนื่องจากอ้างว่าจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจ
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/41852
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น