อยาก"รู้แล้ว"บ้าง
(คลิกดู)
เพราะ "สไนเปอร์" โดยแท้
ทำให้คลิปที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เคยลงลึกถึงขนาดอธิบายคำสนทนาของทหาร 2 นาย ที่กำลัง "ปฏิบัติการ" อะไรบางอย่าง
ในห้วงม็อบคนเสื้อแดง "ร้อน" ขึ้นมาอีก
ล้มแล้ว!!
...รู้แล้ว!!
คือเสียงที่ดังในคลิป
ล้มแล้ว คงหมายถึง "เป้าหมาย" ที่หนึ่งในทหารนั้นลั่นกระสุนจากปืนที่ติดลำกล้องเข้าใส่ จากนั้นทหารอีกคนที่ชี้เป้า รายงานผล
รู้แล้ว เป็นเสียงจากผู้ลั่นไก พร้อมกับมี "ของแถม" ออกไปอีกหนึ่งนัด
จนทหารอีกคนบอกว่า "อย่าซ้ำ"
คลิปนี้แม้จะสั้น แต่ก็สามารถให้ "ข้อเท็จจริง" อะไรได้มาก
อย่างในเบื้องต้น พ.อ.สรรเสริญเคยอธิบายไว้ว่า นี่เป็นปฏิบัติการของพลแม่นปืนระวังป้องกัน ที่ใช้ปืนเอ็ม 16 ติดกล้อง ไม่ใช่สไนเปอร์
ส่วนที่ต้อง "ล้ม" ก็เพราะเป้าหมายเตรียมใช้ระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่
และเหตุที่ "รู้แล้ว" (ว่าล้ม) แต่ยิงซ้ำเข้าไป ก็เพราะเป้าหมายเตรียมที่จะขว้างระเบิดอีกรอบ
จากคำอธิบาย แสดงว่า พ.อ.สรรเสริญและทหารมีข้อมูล-ข้อเท็จจริง ค่อนข้างละเอียดในมือ
และนั่นอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขประตูไปสู่ห้องแห่งความจริงได้
จึง น่ายินดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่แม้จะหงุดหงิดกับคำว่า สไนเปอร์ ยินดีที่จะให้ทหารซึ่งปัจจุบันเป็นทหารนอกราชการแล้ว ไปให้ปากคำกับดีเอสไอ
ซึ่งคงได้ "ข้อเท็จจริง" จากผู้ปฏิบัติมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ดีเอสไอก็คงมีหน้าที่ตามหา "เป้าหมาย" ที่ "ล้มแล้ว" ว่ามี "ระเบิด" ในมือหรือไม่ และมีเป้าหมายจะคุกคาม
เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหรือไม่
เมื่อข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายมา "ยันกัน" มาชั่งน้ำหนักว่า เกินกว่าเหตุ หรือเหมาะสมกับสถานการณ์
ก็คงทำให้คนในสังคม ได้มีโอกาสพูดคำว่า "รู้แล้ว" บ้าง
และเมื่อ "รู้แล้ว" หลายๆ "รู้แล้ว" เข้า ความจริงก็จะกระจ่างแจ้งขึ้น
เชื่อว่านี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องการ
เมื่อต้องการ ก็ควรเดินไปตามแนวทางที่เอาข้อมูลมาแบต่อหน้ากันให้มากสุด
ในเบื้องต้น เราอาจจะเห็นความไม่เข้าใจ หรือตั้งแง่ ตั้งข้อสงสัยต่อกันบ้าง
แต่ก็น่ายินดี พอผ่านก็เริ่มการเห็นคลี่คลายของความรู้สึก
พล.อ.ประยุทธ์ก็พร้อมอำนวยความสะดวกให้สอบทหาร
คนรับผิดชอบในดีเอสไอ ก็ออกมาขอโทษที่ให้สัมภาษณ์อะไรล้ำหน้าไป
ที่ สำคัญมียืนยันว่า การสอบสวนไม่มีการตั้งธง มีเพียงความต้องการรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมายให้มากที่สุด ต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นภาพใหญ่ (คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีสลายม็อบ 98 ศพ บาดเจ็บ 2,000 ราย)
ขณะที่ในฟากการเมือง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คล้ายให้คำมั่นแก่ทหารเพื่อความสบายใจว่า จากเหตุการณ์ทั้งหมด ข้าราชการทุกภาคส่วน รวมถึงทหาร ตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ จะได้รับการคุ้มครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62 และมาตรา 70
ส่วนผู้ต้องรับผิดชอบคือผู้สั่งการเท่านั้น
ที่ผ่านมา เราเห็น "นักการเมือง" ซึ่งเป็นผู้สั่งการออกมาท้าทายให้เอาข้อเท็จจริงมา "มัดกัน" โดยแต่ละฝ่ายไม่ควรจะนิรโทษกรรม
"ผู้ปฏิบัติงาน" ก็สนองหน่อยเป็นไร
เราอยากตะโกนให้เต็มเสียง "รู้แล้ว!!" บ้าง
ทำให้คลิปที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เคยลงลึกถึงขนาดอธิบายคำสนทนาของทหาร 2 นาย ที่กำลัง "ปฏิบัติการ" อะไรบางอย่าง
ในห้วงม็อบคนเสื้อแดง "ร้อน" ขึ้นมาอีก
ล้มแล้ว!!
...รู้แล้ว!!
คือเสียงที่ดังในคลิป
ล้มแล้ว คงหมายถึง "เป้าหมาย" ที่หนึ่งในทหารนั้นลั่นกระสุนจากปืนที่ติดลำกล้องเข้าใส่ จากนั้นทหารอีกคนที่ชี้เป้า รายงานผล
รู้แล้ว เป็นเสียงจากผู้ลั่นไก พร้อมกับมี "ของแถม" ออกไปอีกหนึ่งนัด
จนทหารอีกคนบอกว่า "อย่าซ้ำ"
คลิปนี้แม้จะสั้น แต่ก็สามารถให้ "ข้อเท็จจริง" อะไรได้มาก
อย่างในเบื้องต้น พ.อ.สรรเสริญเคยอธิบายไว้ว่า นี่เป็นปฏิบัติการของพลแม่นปืนระวังป้องกัน ที่ใช้ปืนเอ็ม 16 ติดกล้อง ไม่ใช่สไนเปอร์
ส่วนที่ต้อง "ล้ม" ก็เพราะเป้าหมายเตรียมใช้ระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่
และเหตุที่ "รู้แล้ว" (ว่าล้ม) แต่ยิงซ้ำเข้าไป ก็เพราะเป้าหมายเตรียมที่จะขว้างระเบิดอีกรอบ
จากคำอธิบาย แสดงว่า พ.อ.สรรเสริญและทหารมีข้อมูล-ข้อเท็จจริง ค่อนข้างละเอียดในมือ
และนั่นอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขประตูไปสู่ห้องแห่งความจริงได้
จึง น่ายินดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่แม้จะหงุดหงิดกับคำว่า สไนเปอร์ ยินดีที่จะให้ทหารซึ่งปัจจุบันเป็นทหารนอกราชการแล้ว ไปให้ปากคำกับดีเอสไอ
ซึ่งคงได้ "ข้อเท็จจริง" จากผู้ปฏิบัติมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ดีเอสไอก็คงมีหน้าที่ตามหา "เป้าหมาย" ที่ "ล้มแล้ว" ว่ามี "ระเบิด" ในมือหรือไม่ และมีเป้าหมายจะคุกคาม
เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหรือไม่
เมื่อข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายมา "ยันกัน" มาชั่งน้ำหนักว่า เกินกว่าเหตุ หรือเหมาะสมกับสถานการณ์
ก็คงทำให้คนในสังคม ได้มีโอกาสพูดคำว่า "รู้แล้ว" บ้าง
และเมื่อ "รู้แล้ว" หลายๆ "รู้แล้ว" เข้า ความจริงก็จะกระจ่างแจ้งขึ้น
เชื่อว่านี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องการ
เมื่อต้องการ ก็ควรเดินไปตามแนวทางที่เอาข้อมูลมาแบต่อหน้ากันให้มากสุด
ในเบื้องต้น เราอาจจะเห็นความไม่เข้าใจ หรือตั้งแง่ ตั้งข้อสงสัยต่อกันบ้าง
แต่ก็น่ายินดี พอผ่านก็เริ่มการเห็นคลี่คลายของความรู้สึก
พล.อ.ประยุทธ์ก็พร้อมอำนวยความสะดวกให้สอบทหาร
คนรับผิดชอบในดีเอสไอ ก็ออกมาขอโทษที่ให้สัมภาษณ์อะไรล้ำหน้าไป
ที่ สำคัญมียืนยันว่า การสอบสวนไม่มีการตั้งธง มีเพียงความต้องการรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมายให้มากที่สุด ต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นภาพใหญ่ (คำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีสลายม็อบ 98 ศพ บาดเจ็บ 2,000 ราย)
ขณะที่ในฟากการเมือง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คล้ายให้คำมั่นแก่ทหารเพื่อความสบายใจว่า จากเหตุการณ์ทั้งหมด ข้าราชการทุกภาคส่วน รวมถึงทหาร ตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ จะได้รับการคุ้มครองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 62 และมาตรา 70
ส่วนผู้ต้องรับผิดชอบคือผู้สั่งการเท่านั้น
ที่ผ่านมา เราเห็น "นักการเมือง" ซึ่งเป็นผู้สั่งการออกมาท้าทายให้เอาข้อเท็จจริงมา "มัดกัน" โดยแต่ละฝ่ายไม่ควรจะนิรโทษกรรม
"ผู้ปฏิบัติงาน" ก็สนองหน่อยเป็นไร
เราอยากตะโกนให้เต็มเสียง "รู้แล้ว!!" บ้าง
(อ่านต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น