เอฟทีเอ ว็อทช์จี้พาณิชย์แจงเหตุเร่งเอฟทีเอไทย-อียู พร้อมยื่นข้อเสนอแนะ
8 ส.ค.55 นางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล
ผู้ประสานงานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์)
เปิดเผยว่า ทางเอฟทีเอ ว็อทช์ได้ทำหนังสือถึงนายบุญทรง เตริยาภิรมย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และสำเนาถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
เพื่อขอคำชี้แจงในกระบวนการการเจรจาหนังสือสัญญาระหว่างประเทศตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 190
จากการที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวัน
ที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาว่าจะมีการเสนอรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจา
ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ให้ได้ในเดือน ส.ค.นี้
เอฟทีเอ ว็อทช์ ให้เหตุผลว่า เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่สร้างผลกระทบเสียหายกับสาธารณชนโดยรวม รวมถึงต้องไม่เป็นไปเพื่อผล ประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ ดังนั้นกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานภาครัฐจึงต้องรักษาหลักการดังกล่าว โดยดำเนินการให้วิธีการในกระบวนการเจรจาทางการค้าฯ เป็นไปอย่างโปร่งใสและทำให้สาธารณชนเข้าใจ อย่างน้อยโดยการให้ความชัดเจนเกี่ยวกับข้อคำถามเบื้องต้นเหล่านี้
เอฟทีเอ ว็อทช์ ให้เหตุผลว่า เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่สร้างผลกระทบเสียหายกับสาธารณชนโดยรวม รวมถึงต้องไม่เป็นไปเพื่อผล ประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ ดังนั้นกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานภาครัฐจึงต้องรักษาหลักการดังกล่าว โดยดำเนินการให้วิธีการในกระบวนการเจรจาทางการค้าฯ เป็นไปอย่างโปร่งใสและทำให้สาธารณชนเข้าใจ อย่างน้อยโดยการให้ความชัดเจนเกี่ยวกับข้อคำถามเบื้องต้นเหล่านี้
1.การที่กระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อให้รัฐสภาเห็นชอบกรอบการ
เจรจาภายใน ส.ค.นี้ ร่างกรอบเจรจาฯดังกล่าว
จะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหรือไม่ อย่างไร และเมื่อใด
ก่อนหรือหลังการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตามมาตรา 190 วรรค 3
ระบุว่า “ก่อนการดำเนินการเพื่อทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศหรือองค์การ
ระหว่างประเทศตามวรรคสอง
คณะรัฐมนตรีต้องให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
และต้องชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับหนังสือสัญญานั้น ในการนี้
ให้คณะรัฐมนตรีเสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบด้วย” แต่จนถึง
ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ในส่วนของการให้ข้อมูลและการจัดรับฟังความเห็นประชาชน
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/41951
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น