หวั่นสอย"ยิ่งลักษณ์" พ้นนายกฯ แผนสำรอง"เพื่อไทย" วาง "เยาวภา" "นายกฯ(แดง)" คนที่ 4 สายเลือด"ชินวัตร"
เป็นการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 3 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 21 เมษายน 2556
หลัง จาก "เกษม นิมมลรัตน์" คนสนิท "เยาวภา" ลาออกจาก ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 3 เนื่องด้วยมีปัญหาด้านสุขภาพการได้ยินจากผลของการเดินทางด้วยการขึ้นเครื่อง บินอยู่บ่อยครั้ง
วินาทีแห่งการ "ลาออก" ของ "เกษม" ทำให้เกิดนัยยะทางการเมืองขึ้นทันที
เนื่องจาก "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี กำลังถูก "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ" (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด
ใน ข้อกล่าวหาที่ "นายกฯ หญิง" แจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จเรื่องการปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาท ให้บริษัท แอด อินเด็กซ์ จำกัด ที่มี นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีและเครือญาติ ถือหุ้นใหญ่ช่วงปี 2549-2550
การเปิดทางให้ตำแหน่ง ส.ส. ใน อ.สันกำแพง บ้านเกิดของ "คนสกุลชินวัตร" ว่างลง จึงถูกคาดหมายว่า "เยาวภา" จะลงสนามเลือกตั้งอีกครั้ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า อ.สันกำแพง คือพื้นที่เดิมของ "เยาวภา" เมื่อครั้งเป็น ส.ส.
เมื่อ "เยาวภา" ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ทำให้ต้องส่ง "บุตรสาว" คือ "ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์" ลง ส.ส. ในพื้นที่ อ.สันกำแพง แทน ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2550 และการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2554
เมื่อ "เยาวภา" ได้รับสิทธิทางการเมืองเต็มขั้นภายหลังพ้นโทษแบนทางการเมืองเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2555
ทำให้ "เจ๊แดง" คนใหญ่แห่ง "พรรคเพื่อไทย" หวนคืน ส.ส. อีกครั้ง
หลัง จาก "ชินณิชา" ถูก "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" ตัดสินห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี กรณียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบต่อ ป.ป.ช. ในส่วนเงินกู้ยืมจาก นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ จำนวน 100 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2555
ทำให้ครั้งนั้น "เยาวภา" ต้องส่ง "เกษม" ลง ส.ส. "ขัดตาทัพ" ไปพลางก่อน
แม้ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" อดีตนายกรัฐมนตรี สามี "เยาวภา" ยืนยันว่า การลงสมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ของ "ภริยา" เป็นเพราะ "เกษม" ลาออกจากปัญหาด้านสุขภาพ
ทว่า ผลของการลาออก ส.ส. ของ "เกษม" ทำให้ถูกคาดหมายว่า การมาของ "เยาวภา" ในฐานะ ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 3 ในเวลาอันใกล้นี้
เสมือนเป็น "แผนสำรอง" วางตัว "นายกฯ สำรอง" ให้กับ "พรรคเพื่อไทย"
เพราะคดีร้อนชี้ชะตาอนาคต "ประมุขฝ่ายบริหาร" คนที่ 28 ที่ชื่อ "ยิ่งลักษณ์" อยู่ในมือของ "ป.ป.ช."
คดีของ "ยิ่งลักษณ์" จึงไม่น่าต่างจากคดีที่ "ชินณิชา" ถูกสอยให้พ้นจาก ส.ส.
ฉะนั้น หาก "ป.ป.ช." ชี้มูลความผิดว่า "ยิ่งลักษณ์" ปกปิดการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จจริง
อุบัติเหตุทางการเมืองของ "ยิ่งลักษณ์" อาจเดินไปสู่การพิจารณาของ "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง"
ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่ "นายกฯ หญิง" อาจต้องคดีอาญาและอาจถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
อุบัติเหตุทางการเมืองนี้ ย่อมส่งผลสะเทือนถึงตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ของ "พรรคเพื่อไทย"
เพราะ "องค์กรอิสระ" หรือ "องค์กรตามรัฐธรรมนูญ" เคยมีคำวินิจฉัยให้ 2 นายกรัฐมนตรี ของ "พรรคพลังประชาชน" พรรคการเมืองแถวสองของ "พรรคไทยรักไทย" พ้นจากตำแหน่งนายกฯ มาแล้ว
เมื่อ "สมัคร สุนทรเวช" ต้องพ้นจากนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ในคดี "ชิมไปบ่นไป" จากคำวินิจฉัยของ "ศาลรัฐธรรมนูญ"
เมื่อ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ต้องพ้นจากนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 จากผลพวงในคดี "ยุบพรรคพลังประชาชน" และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค
เมื่อ "พรรคเพื่อไทย" พรรคการเมืองแถวสาม อุบัติขึ้นเพื่อสืบทอด "พันธุกรรม" ทางการเมืองต่อจาก "ไทยรักไทย" ต่อจาก "พลังประชาชน"
"พรรคเพื่อไทย" จึงต้องหวั่นไหวกับ "อุบัติเหตุทางการเมือง" ที่คาดว่าจะ "ซ้ำรอย" เป็นธรรมดา
ทำให้ "คนชินวัตร" ผู้กุมอำนาจเต็มใน "พรรคเพื่อไทย" จึงต้องงัด "แผนสำรอง" เพื่อรองรับอุบัติเหตุทางการเมืองในอนาคตที่อาจเกิดขึ้น
การ ส่ง "เยาวภา" ลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ในพื้นที่ "สันกำแพง" ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของ "คนชินวัตร" ย่อมได้รับการเลือกตั้งจาก "คนเชียงใหม่" เป็นอย่างสูง
เพราะ "เชียงใหม่" และ "สันกำแพง" คือ "เมืองหลวง" และ "ฐานที่มั่น" ของ "พรรคเพื่อไทย"
"คนสันกำแพง" มีนายกรัฐมนตรี จาก "คนชินวัตร" มาแล้ว 2 คน
1 นายกรัฐมนตรีคนแรก คือ "ทักษิณ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีคนที่ 23
1 นายกรัฐมนตรีคนที่สองคือ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีคนที่ 27
พี่ น้องสายเลือดเดียว "ชินวัตร" นอกจาก "ทักษิณ" และ "ยิ่งลักษณ์" ที่มีบทบาททางการเมืองอย่างสูงในเวลานี้ และเป็น "คนสันกำแพง" จึงหลีกหนีชื่อ "เยาวภา" ไปไม่ได้
เพราะ "เยาวภา" ถือเป็นน้องลำดับที่ 6 ของ "พี่น้องชินวัตร" ร่วมสายโลหิตกับ "ทักษิณ"
"เยาว ภา" หรือ "เจ๊แดง" ของ "เพื่อไทย" ถือเป็น "น้องสาวทักษิณ" ซึ่งร่วมลงสนามการเมืองกับ "ไทยรักไทย" เคียงข้าง "พี่ชาย" ในยุคแรกช่วงปี 2544
ฉะนั้น ความไว้วางใจย่อมมีสูง หากเป็น "คนสายเลือด" เดียวกัน
เป็น ความไว้วางใจ ที่ "ทักษิณ" มีให้ "ยิ่งลักษณ์" น้องสาวคนที่ 10 ในสายเลือด "ชินวัตร" เดียวกัน จนได้รับความไว้วางใจจาก "สภาผู้แทนราษฎร" ให้ก้าวสู่ "นายกรัฐมนตรี" คนที่ 27 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2554
เป็นความไว้วางใจที่ "คนชินวัตร" เคยมอบให้กับ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 26 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2551
และ น่าจะเป็นอีกความไว้วางใจ 1 ของ "คนชินวัตร" ที่จะอาจส่งมอบต่อให้ "เยาวภา" เช่นกันในอนาคต หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ "น้องหญิง-ยิ่งลักษณ์"
เพราะทั้งหมดล้วนเป็นคนใกล้ชิด และเป็น "สายตรงทักษิณ" ทั้งสิ้น
ถึง แม้ "ยิ่งลักษณ์" จะขอความเป็นธรรม กับ "ป.ป.ช." ว่า "โธ่...จะไม่ให้ทำงานแล้วเหรอคะ ได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนมาปีกว่า อยากเห็นการทำงานจนครบสมัยเพื่อจะได้พิสูจน์การทำงานของรัฐบาล ขอโอกาส อย่าเพิ่งไปมองคนอื่นเลย วันนี้ยิ่งลักษณ์ขอยืนยันที่จะทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มความ สามารถ"
แต่ในทางการเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
ยิ่งจับคำพูด ของ "สมชาย" ซึ่งเป็นสามีของ "เยาวภา" ถึงคุณสมบัติการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 4 ของตระกูลชินวัตร ต่อจาก "ทักษิณ" ต่อจาก "สมชาย" ต่อจาก "ยิ่งลักษณ์"
"สมชาย" ตอบทันทีว่า "คนเป็น ส.ส. เป็นนายกฯ ได้ทุกคน คุณสมบัติอันเดียวกัน ต้องอายุเกิน 35 ปี คุณเยาวภา อายุเกิน 35 ปีแล้ว"
"1.ขึ้น อยู่กับประชาชนเลือก 2.ถ้านายกฯ คนเดิมลาออก หรือพ้นไป อยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะส่งคนไปคัดเลือกในสภา ซึ่งเป็นไปตามกติกา ใครจะเป็นนายกฯ นั้น ถามว่า นางเยาวภาไปลง ส.ส. เพื่อเป็นนายกฯ หรือไม่นั้น ไม่ใช่"
ถึงแม้ "สมชาย" ออกตัวแทน "เยาวภา" ว่า "คุณเยาวภาไม่อยากจะมีความทะเยอทะยานจะเป็นนายกฯ หรอก การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นแค่ ส.ส. เพราะนายกฯ มีอยู่แล้ว น้องสาวเป็นแล้ว พี่สาวจะไปเป็นอะไร"
แต่หากถึงที่สุด "เยาวภา" ต้องถูกวางตัวให้เป็นนายกฯ คนที่ 4 ของครอบครัวชินวัตร ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
"ถ้า ประชาชนเลือก สภาเลือก ไม่แปลกอะไร แต่ตอนนี้ไม่มีอะไร เพราะนายกฯ ยิ่งลักษณ์ สุดยอดอยู่แล้ว ไม่มีใครคิดจะไปแทรกตำแหน่งนายกฯ ไม่มีแผนสำรอง"
เป็นคำพูดซึ่ง "ถอดรหัสลับ" ออกจาก "สมชาย" ในฐานะอดีตนายกฯ ในฐานะสามี "เยาวภา" ว่าที่ "นายกฯ(แดง)" คนที่ 4 "สกุลชินวัตร"!!!
(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364018923&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น