คดีเจริญ วัดอักษร: ชวน ‘ย้อนรอยคำพิพากษา’ อีกหนึ่งบทพิสูจน์กระบวนการยุติธรรม
“แม้เราจะถูกกำหนดให้เชื่อว่าคำ
พิพากษาของศาลในระบบปัจจุบันมีความถูกต้องเป็นธรรมเสมอ
แต่ก็ไม่มีใครสามารถมาบังคับให้เราต้องศิโรราบกับที่ไม่ถูกต้องเป็นธรรม
ได้...” ถ้อยความจากบทวิพากษ์คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจ้างวานฆ่า ‘เจริญ
วัดอักษร’ โดย กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก
หลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 16
มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ให้ประหารชีวิต ‘ธนู
หินแก้ว’ จำเลยที่ 3 ในคดี ในฐานะผู้จ้างวานด้วยเหตุความโกรธแค้นที่ ‘เจริญ
วัดอักษร’ เป็นผู้นำชาวบ้านคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของ
บ.กัลฟ์พาวเวอร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด ในพื้นที่ ต.บ่อนอก
และเปิดโปงการบุกรุกที่ดินสาธารณะของกลุ่มอิทธิพล ตั้งแต่เมื่อปี 2547
เหตุผลในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกฟ้องระบุว่า
“พยานโจทก์ไม่มีเหตุผลหนักแน่นพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่านายธนูเป็นผู้จ้างวาน
จริง” จึงก่อให้เกิดคำถามต่อกระบวนการยุติธรรมในวงกว้าง
เพื่อไขข้อสงสัยดังกล่าว กรณ์อุมา พงษ์น้อย
ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก พร้อมกลุ่มชาวบ้านเสื้อเขียวกว่า 200
คนเดินทางจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มายังศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดา เมื่อวันที่ 23
เม.ย.ที่ผ่านมา
ด้วยเป้าหมายในการชี้แจงข้อมูลต่อสาธารณะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดี
รวมทั้งคำวินิจฉัยคดีของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ซึ่งต่างกันราวขาวกับดำ
(อ่านต่อ)
(อ่านต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น