หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

คดีเจริญ วัดอักษร: ชวน ‘ย้อนรอยคำพิพากษา’ อีกหนึ่งบทพิสูจน์กระบวนการยุติธรรม

คดีเจริญ วัดอักษร: ชวน ‘ย้อนรอยคำพิพากษา’ อีกหนึ่งบทพิสูจน์กระบวนการยุติธรรม

 


 
 
“แม้เราจะถูกกำหนดให้เชื่อว่าคำ พิพากษาของศาลในระบบปัจจุบันมีความถูกต้องเป็นธรรมเสมอ แต่ก็ไม่มีใครสามารถมาบังคับให้เราต้องศิโรราบกับที่ไม่ถูกต้องเป็นธรรม ได้...” ถ้อยความจากบทวิพากษ์คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจ้างวานฆ่า ‘เจริญ วัดอักษร’ โดย กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก 
 
หลังจากศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ให้ประหารชีวิต ‘ธนู หินแก้ว’ จำเลยที่ 3 ในคดี ในฐานะผู้จ้างวานด้วยเหตุความโกรธแค้นที่ ‘เจริญ วัดอักษร’ เป็นผู้นำชาวบ้านคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของ บ.กัลฟ์พาวเวอร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด ในพื้นที่ ต.บ่อนอก และเปิดโปงการบุกรุกที่ดินสาธารณะของกลุ่มอิทธิพล ตั้งแต่เมื่อปี 2547


เหตุผลในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้ยกฟ้องระบุว่า “พยานโจทก์ไม่มีเหตุผลหนักแน่นพอที่จะทำให้เชื่อได้ว่านายธนูเป็นผู้จ้างวาน จริง” จึงก่อให้เกิดคำถามต่อกระบวนการยุติธรรมในวงกว้าง


เพื่อไขข้อสงสัยดังกล่าว กรณ์อุมา พงษ์น้อย ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก พร้อมกลุ่มชาวบ้านเสื้อเขียวกว่า 200 คนเดินทางจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มายังศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดา เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยเป้าหมายในการชี้แจงข้อมูลต่อสาธารณะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดี รวมทั้งคำวินิจฉัยคดีของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ซึ่งต่างกันราวขาวกับดำ

(อ่านต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น