อนาคต ′ม็อบ′ ลักษณะ ′ย้อนแย้ง′ ในทางการเมือง
หากการปรากฏขึ้นของคำว่า "แช่แข็ง" จะนำไปสู่สภาวะแช่แข็งให้กับการชุมนุมทางการเมืองขององค์การพิทักษ์สยาม
การปรากฏขึ้นของคำว่า "นายกฯพระราชทาน" ก็มีผลอย่า′ลึกซึ้งต่อ "ม็อบสนามหลวง"
ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ววาทกรรมแห่ง "แช่แข็ง" เสมอเป็นเพียงจิตใต้สำนึกอันตกตะกอนนอนก้นอยู่ส่วนลึกภายในก้านสมองของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
เช่นเดียวกับ ความต้องการ "นายกฯพระราชทาน" ของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
พลันที่คำว่า "แช่แข็ง" สะท้อนความหมายเชิงยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวของม็อบอันมีจุดเริ่มต้นจากสนามม้า นางเลิ้ง
สังคมก็ต้องงันชะงัก
เพราะว่าการแช่แข็งทางการเมืองจะเกิดขึ้นก็หมายถึงภายหลังความสามารถในการโค่นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงได้
แล้วใครเล่าที่จะสามารถ
เช่นเดียวกับเมื่อเสนอ "นายกฯพระราชทาน" ขึ้นมา เท่ากับอาศัยข้อเรียกร้องให้สถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามามีบทบาทในทางการเมือง
นี่คือวิถีแห่งการ "โหน" อันล่อแหลม
การอุบัติขึ้นแล้วแตกสลายไปของการเคลื่อนไหวหนึ่งๆ หากดำเนินไปในลักษณะอัน "ย้อนแย้ง" เป็นอย่างสูงย่อมหวาดเสียว
เมื่อองค์การพิทักษ์สยามสำแดงตัว
ปาก 1 เขาต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณอันเป็นตัวแทนแห่งเผด็จการรัฐสภา คอร์รัปชั่นโกงกิน ขณะเดียวกัน ปาก 1 เขาเรียกร้องให้อำนาจนอกระบบ นอกกติกามาทำลายรัฐบาลอันเป็นตัวแทนแห่งระบอบทักษิณ
ทั้งๆ ที่รัฐบาลนั้นมาจากการตัดสินใจเลือกของประชาชน
การปรากฏขึ้นของคำว่า "นายกฯพระราชทาน" ก็มีผลอย่า′ลึกซึ้งต่อ "ม็อบสนามหลวง"
ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้ววาทกรรมแห่ง "แช่แข็ง" เสมอเป็นเพียงจิตใต้สำนึกอันตกตะกอนนอนก้นอยู่ส่วนลึกภายในก้านสมองของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
เช่นเดียวกับ ความต้องการ "นายกฯพระราชทาน" ของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
พลันที่คำว่า "แช่แข็ง" สะท้อนความหมายเชิงยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวของม็อบอันมีจุดเริ่มต้นจากสนามม้า นางเลิ้ง
สังคมก็ต้องงันชะงัก
เพราะว่าการแช่แข็งทางการเมืองจะเกิดขึ้นก็หมายถึงภายหลังความสามารถในการโค่นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงได้
แล้วใครเล่าที่จะสามารถ
เช่นเดียวกับเมื่อเสนอ "นายกฯพระราชทาน" ขึ้นมา เท่ากับอาศัยข้อเรียกร้องให้สถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามามีบทบาทในทางการเมือง
นี่คือวิถีแห่งการ "โหน" อันล่อแหลม
การอุบัติขึ้นแล้วแตกสลายไปของการเคลื่อนไหวหนึ่งๆ หากดำเนินไปในลักษณะอัน "ย้อนแย้ง" เป็นอย่างสูงย่อมหวาดเสียว
เมื่อองค์การพิทักษ์สยามสำแดงตัว
ปาก 1 เขาต้องการโค่นล้มระบอบทักษิณอันเป็นตัวแทนแห่งเผด็จการรัฐสภา คอร์รัปชั่นโกงกิน ขณะเดียวกัน ปาก 1 เขาเรียกร้องให้อำนาจนอกระบบ นอกกติกามาทำลายรัฐบาลอันเป็นตัวแทนแห่งระบอบทักษิณ
ทั้งๆ ที่รัฐบาลนั้นมาจากการตัดสินใจเลือกของประชาชน
เช่น เดียวกับ เมื่อแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดิน ประสานกับกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ปฏิเสธความชอบธรรมของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
แต่แนวทางก็คือ การถวายฎีกาขอ "นายกฯพระราชทาน"
เด่นชัดอย่างยิ่งถึงสภาวะและลักษณะอัน "ย้อนแย้ง" ในทางความคิด ในทางการเมืองที่ดำรงอยู่
เพียงถูก "สะกิด" นิดเดียว "ข้อเสนอ" ก็พังครืน
ความล้มเหลวอย่างหมดรูปขององค์การพิทักษ์สยามเป็นเช่นนี้ ความล้มเหลวของแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดินก็จะดำเนินไปเช่นนี้
ย้อนแย้ง สะดุดขาตัวเอง
ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ การอุบัติขึ้นแห่งกลุ่ม "หน้ากากขาว" ซึ่งก่อหวอดจากการชุมนุม ณ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์
อาจเพราะใจร้อน เกรงจะไม่ทันการณ์
1 ดึงกำลังบางส่วนจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บางส่วนจากองค์การพิทักษ์สยาม บางส่วนจากท้องสนามหลวง
ขณะเดียวกัน 1 ก็เร่งกำลังจากผลผลิตแห่งเวที "ผ่าความจริง"
เพราะว่าต้องการสร้างภาพการขยายตัวเติบใหญ่อย่างรวดเร็วจนเกินไป จึงสุมฟืนก่อไฟในต่างจังหวัดให้มีลักษณะทั่วประเทศ
พื้นฐาน 10 ล้านเสียงของพรรคประชาธิปัตย์สร้างไม่ยากอยู่แล้ว
เมื่อประสานกับมูลเชื้อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดิมบางส่วนในฮ่องกง ในซิดนีย์ ก็ทำให้สื่อพวกเดียวกันบางฉบับประโคมพาดหัวว่า
"หน้ากากขาว" ต้านรัฐบาล "ทั่วโลก"
ทุกอย่าง จึงดำเนินไปเหมือนสำนวนไทยโบราณที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เคยนำมาเปรียบเปรยกับนักการเมืองหนุ่มบางคนว่าเป็น "มะม่วงจำบ่ม" พลันที่ปะเข้ากับสถานการณ์อย่างที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐพาดหัว "2 โจรสวมหน้ากากขาว เข้าไปชิงทรัพย์เซเว่น"
ก็เหมือนปราสาททรายต้องคลื่น
ไม่ว่าม็อบแช่แข็งสนามม้า ไม่ว่าม็อบนายกฯพระราชทาน ไม่ว่าม็อบหน้ากากขาว สมควรศึกษา
1 ศึกษาถึงสภาพแห่งการเกิดขึ้น ดำรงอยู่ 1 ศึกษาถึงสภาพและลักษณะย้อนแย้งของเนื้อหาทางความคิดอันส่งผลสะเทือนอย่างลึก ซึ้งถึงการเคลื่อนไหวในทางการเมือง
แล้วจะมองเห็น "อนาคต" ได้ไม่ยาก
(อ่านต่อ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น