การปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไป น่าจะเป็นผลดีมากกว่า
ม็อบสุเทพ ไม่นิยมการเลือกตั้ง ชอบสรรหาคนดี ผ่านวิธีการพิเศษ เป็นม็อบแนวร่วมระหว่างมวลชนอุปถัมภ์ทางใต้ กับชนชั้นกลาง ในกรุงเทพ ไม่นิยมการเจรจา ประณีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น
เราไม่ควรกังวล กับท่าที และรูปแบบม็อบแบบนี้ มันเห็นได้ชัดเจน ว่าเป็นม็อบเสียงส่วนน้อย ที่นิยมระบบอันธพาล สุดท้ายม็อบลักษณะนี้ ถ้ายังต้องการมุ่งหน้าต่อ ก็จะเดินไปในแนวทางเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้น กับพวกพันธมิตร และสุดท้าย มวลชนที่พอมีเหตุมีผลอยู่บ้าง ก็จะเริ่มถอยออกห่าง
สถานการณ์แบบนี้ มันต้องใช้เวลา ไม่ง่าย ต้องอดทน อยู่กับสภาพความไร้ระเบียบแบบนี้ ไปอีกซักระยะ ซึ่งอาจจะนานกินเวลาไปเป็นปี ก็อาจจะเป็นไปได้
อย่าไปคิดว่าการพยายามหาทางออกเร็วๆ มันจะจบง่ายๆ มันไม่ง่ายแบบนั้น เพราะเท่ากับเราไปยอมรับ กระบวนการผิดๆ ของฝ่ายโน้น ซึ่งเท่ากับเราไปรับรองความชอบธรรมของฝ่ายโน้น ซึ่งเท่ากับเราไม่เรียนรู้ การผ่าน พรบ.นิรโทษกรรม ที่เป็น กม.ที่ขาดความชอบธรรมทางการเมือง
การปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไป น่าจะเป็นผลดีมากกว่า เพื่อเรียกหลักการ และความชอบธรรมกลับมา
แต่ เราไม่ควรนิ่งเฉย งอมืองอเท้า ต้องขยันสร้างกระแสประชาธิปไตย ร่วมชุมนุมกับมิตรสหายที่รักประชาธิปไตย และที่สำคัญที่สุด ต้องสร้างกลุ่มการเมืองทางเลือก แทนการเมืองแย่ๆ ของเพื่อไทยและแกนนำ นปช. กลุ่มการเมืองทางเลือกนี้ต้องติดดิน เน้นมวลชน เน้นเคลื่อนไหว เน้นศึกษาการเมือง เน้นกรรมาชีพและคนเสื้อแดง ไม่ใช่เสนอตนเองเป็นนักการเมืองโดยไม่มีมวลชนจริง แล้วมัวแต่ประนีประนอมกับคนชั้นกลางที่ไม่ก้าวหน้า
(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2014/01/blog-post_3338.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น