บทสรุป ชัตดาวน์ ชัยชนะ เชิง สัญลักษณ์ ของ สุเทพ กปปส.
ถามว่าเวลา 7 วันของหมัดเด็ด "ชัตดาวน์" กรุงเทพมหานคร จากวันที่ 13-20 มกราคม ประสบความสำเร็จหรือไม่
ความสำเร็จนั้นหากประเมินจากเป้าหมายที่ประกาศ
1 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี 1 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศ
แม้แกนนำหลายคนของ กปปส.ประกาศชัยชนะ
อย่าง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็ประกาศชัยชนะตั้งแต่ 3 วันแรก อย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ชื่นชมอย่างยิ่งกับความสำเร็จ
แต่ถามว่า สถานะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างไร
แต่ถามว่า ความต้องการที่ให้มี "การเลื่อน" หรือถึงกระทั่ง "ยุบเลิก" การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ประสบความสำเร็จหรือไม่
ตอบได้ว่า ยัง
แม้จะมีความพยายามอย่างเต็มแรงจากศาลรัฐธรรมนูญ แม้จะมีความพยายามอย่างเต็มที่จากคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ก็ยังไม่ระคายผิวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามความคาดหวัง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังอยู่ การเลือกตั้งยังเดินหน้าต่อไป
ขณะเดียวกัน หากถามต่อไปอีกว่าสถานะในทางการเมืองของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มั่นคงและมีความแข็งแกร่งหรือไม่
ตอบได้เลยว่า ไม่
ไม่เพียงแต่ง่อนแง่น โงนเงน อย่างยิ่ง หากแต่ยังร่อแร่ จะตายมิตายแหล่ ใกล้กับสภาวะอย่างที่เรียกว่าเป็ดง่อยเป็นลำดับ
กระนั้น ในความเป็นจริงอำนาจของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว
แม้จะได้รับเลือกมาจากประชาชนเป็นจำนวนมากถึง 265 คน เกินกว่ากึ่งหนึ่งถึง 15 คน ได้เป็นรัฐบาลจริง
แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ทำอะไรไม่ได้
ถาม ว่าโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ทำได้หรือไม่ ถามว่าแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อนำไปสู่ประเทศไทยใหม่ทำได้หรือไม่
ตอบได้เลยว่า ไม่ได้
แม้กระทั่งโครงการรับจำนำข้าวเพื่อช่วยเหลือชาวนาก็ต้องพังอย่างไม่เป็นท่าเมื่อปะเข้ากับคำวินิจฉัย ป.ป.ช.และหมัดเด็ดจาก กกต.
ปกครองไม่ได้ บริหารไม่ได้
ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ ในความอ่อนแอปวกเปียกของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ได้หมายความว่าอำนาจรัฐจะไปอยู่ในมือของ กปปส. หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ยัง ยังไม่ถึงขนาดนั้น
ที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส.รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ทำได้ก็เพียงแต่ก่อให้เกิดภาวะปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น
บริหารยากยิ่งขึ้น ก้าวขาลำบากทั้งๆ ที่ลำบากอยู่แล้ว
ปฏิบัติการ "ชัตดาวน์" ของ กปปส.อาจแลดูว่าปั่นป่วน วุ่นวาย แต่ความปั่นป่วนวุ่นวายก็ดำเนินไปอย่างกระจัดกระจาย แผ่วงกว้างออกไป
มีลักษณะใกล้เคียงกับ "อนาธิปไตย" ของจีนในยุค "แก๊ง 4 คน"
ภาพ ที่มีการนำข้าราชการท่านหนึ่งในภาคใต้แห่ประจาน ภาพที่อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คุกคามข้าราชการดีเอสไอในลิฟต์ ภาพที่นักจัดรายการเล่าข่าวถูกบังคับให้เป่านกหวีด เป็นภาพอย่างเดียวกับที่ "เรด การ์ด" เคยทำกับคนจีน
แม้กระทั่งเย่เจี้ยนอิงก็เคยถูกกระทำ แม้กระทั่งเติ้งเสี่ยวผิงก็เคยถูกกระทำ
แต่อำนาจรัฐก็ยังไม่ได้เป็นของ กปปส. และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขณะเดียวกัน อำนาจรัฐก็มิได้อยู่ในมือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด
นี่คือลักษณะ "อนาธิปไตย" ในสังคม "ประเทศไทย"
สังคมจีนตกอยู่ในห้วงเวลาของการ "ปฏิวัติวัฒนธรรม" จากปี 1966 จนถึงปี 1976 เป็นเวลา 10 ปี
เป็น 10 ปีแห่งความโกลาหล เป็น 10 ปีที่ปั่นป่วน วุ่นวาย เป็น 10 ปีรัฐบาลไม่อาจบริหารไม่อาจปกครอง มีแต่ความเคลื่อนไหว มีแต่การด่าทอ กล่าวหา สวมหมวกให้กันและกัน
เป็น 10 ปีที่ "เหมา" ร่วมกับ "แก๊ง 4 คน" ทำให้เกิดขึ้น
(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1390379060&grpid=01&catid=&subcatid
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น