หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

19 กันยานี้ ทำไม

สนธิ บุญยรัตกลิน และประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงลอยนวล?

ใจ อึ๊งภากรณ์

วันครบรอบห้าปีรัฐประหาร ๑๙ กันยา ควรเป็นวันที่มีการนำนาย สนธิ บุญยรัตกลิน มาขึ้นศาลในข้อหากบฏต่อประชาชนและล้มล้างรัฐธรรมนูญ และควรเป็นวันที่มีการนำนาย ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นศาลในฐานะเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่า แต่ประเทศไทยขาดความเสมอภาค ความเป็นธรรม และเสรีภาพ และขาดรัฐบาลที่เคารพประชาชนเสื้อแดง สิ่งเหล่านี้จึงไม่เกิด

     ลัทธิหรือปรัชญา ความเสมอภาคเป็นอาวุธทางความคิดที่สำคัญที่สุดในการทำลายลัทธิอภิสิทธิ์ชนของอำมาตย์ ที่เป็นฐานรับรองความย่ำแย่ของสังคมเรามานาน

     อำมาตย์ทำรัฐประหารเพราะมองว่าพลเมืองส่วนใหญ่ ต่ำและโง่เกินไป” “ไม่ควรมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกรัฐบาลอำมาตย์เกลียดชังการที่รัฐบาลไทยรักไทยในอดีตนำภาษีประชาชนมาบริการประชาชน เช่นในระบบสาธารณะสุข เพราะอำมาตย์อยากเอาเงินภาษีพลเมืองมาใส่กระเป๋าของตนเอง มาเชิดชูตนเอง  หรือซื้อเครื่องบินราคาเป็นล้านให้ตัวเองนั่ง อำมาตย์เกลียดระบบรัฐสวัสดิการและประมุขของเขาได้เคยพูดไว้เป็นหลักฐานด้วย เขาชอบให้คนจนพอเพียงกับความจน ไม่อยากให้มีการกระจายรายได้ ดังนั้นเราต้องรณรงค์ให้มีรัฐสวัสดิการและการกระจายรายได้ ภายใต้แนวคิด “ความเสมอภาค”

     อำมาตย์อยากให้เราใช้ภาษาพิเศษกับประมุขตัวแทนของเขา ชื่อประมุขก็แปลกๆยาวๆ เพื่อไม่ให้ดูเท่าเทียมกับเรา เวลาเราไปหาก็ต้องคลานเหมือนสัตว์ นิยายอำมาตย์อ้างว่าเขาเหนือมนุษย์ธรรมดาเพราะเก่งทุกอย่าง นี่คือลัทธิที่ค้ำจุนความเหลื่อมล้ำในสังคม

     ลัทธิความคิดเสมอภาคจะทำลายข้ออ้างและการสร้างความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร หรือการแทรกแซงการเมืองของทหาร เพราะทหารเกาะหลังกษัตริย์ และใช้กษัตริย์และลัทธิความวิเศษของกษัตริย์เป็นเครื่องมือเสมอ และใครที่เอ่ยถึงเรื่องนี้จะโดน 112

     ลัทธิความเสมอภาคในระบบประชาธิปไตยแท้ ยืนยันว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน ไม่มีใครต่ำ ไม่มีใครสูง ไม่มีใครมีสิทธิพิเศษ ทุกคนถูกติชมได้ ทุกคนต้องทำงานถ้ามีโอกาสหรือมีปัญญาพอ ทุกคนต้องเสียภาษี และที่สำคัญ ลัทธิเสมอภาคและประชาธิปไตยแท้ เสนอว่าพลเมืองทุกคนมีวุฒิภาวะที่จะปกครองตนเองและเลือกผู้แทนของตนเองอย่างเสรี ดังนั้นการทำรัฐประหาร การขัดขวางประชาธิปไตย และการมีคนถือตำแหน่งสาธารณะโดยไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรี ย่อมเป็นสิ่งที่ผิด การสืบทอดสายเลือดอาจทำให้เรามีหน้าตาเหมือนพ่อแม่ปู่ย่าตายายเราได้ แต่มันไม่ใช่สาเหตุที่จะดำรงตำแหน่งพิเศษในสังคม

     ลัทธิหรือปรัชญาความเท่าเทียม และประชาธิปไตยแท้ เป็นสิ่งเดียวกับ สังคมนิยมเพราะสังคมนิยมเป็นระบบที่คนรากหญ้าต้องสร้างเอง เพื่อให้ทุกกิจกรรมในสังคมตอบสนองความต้องการ และเสริมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน แต่สำหรับคนที่ยังงมงายในกลไกตลาดเสรี และแนวเสรีนิยมว่ามันจะนำไปสู่เสรีภาพหรือประชาธิปไตยได้ ผมขอย้ำว่าอำมาตย์ คมช. และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ล้วนแต่ต่อต้านประชาธิปไตย เป็นพวกที่คลั่งกลไกตลาดเสรี และนักวิชาการเสรีนิยมทั้งหลายในไทย สนับสนุนรัฐประหาร ๑๙ กันยาในอดีต แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ กลไกตลาดเสรี และลัทธิเสรีนิยมใหม่ มีผลในรูปธรรมในการสร้างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เพราะอาศัยปรัชญา “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” และนอกจากนั้นยังมองว่าเมื่อพวกนายธนาคารทำเศรษฐกิจพัง พวกเขา “มีสิทธิ์” ที่จะโยนภาระในการจ่ายหนี้ให้ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนจน โดยอ้างว่าเรา “ไม่มีสิทธิ์” ที่จะคัดค้านตลาดของเขาเลย เราเห็นปรากฏการณ์นี้ทั่วโลกในปัจจุบัน และในไทยสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ในยุควิกฤตต้มยำกุ้ง

     กลุ่มพลังหลักที่อยู่เบื้องหลังรัฐประหาร ๑๙ กันยา ประกอบไปด้วย กลุ่มที่ไม่พอใจกับประชาธิปไตย โดยเฉพาะในกองทัพ หมู่ข้าราชการชั้นสูง นักธุรกิจที่โกรธทักษิณ และปัญญาชนกับนักการเมืองเสรีนิยม การทำรัฐประหารได้รับความเห็นชอบจากกษัตริย์ด้วย เพราะกษัตริย์ภูมิพลไม่คัดค้าน และปล่อยให้ คณะทหารคมช.ติดผ้าเหลือง และถ่ายรูปการเข้าเฝ้าเพื่อกระจายให้ประชาชนดู กลุ่มพลังที่อยู่เบื้องหลังรัฐประหารนี้มีจุดร่วมในการดูถูกและเกลียดชังคนจน สำหรับเขา การมีประชาธิปไตย มากไปให้อำนาจมากเกินไปกับคนจนที่จะลงคะแนนเสียง และส่งเสริมให้รัฐบาลใช้เงินในการให้สวัสดิการและพัฒนาชีวิตของคนจน

     มวลชนเสื้อแดงที่ออกแรงเสียสละต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีของคนที่ถูกมองว่าเป็นไพร่หรือพลเมืองชั้นสอง เป็นผู้ที่ปกป้องวัฒนธรรมและประเพณีประชาธิปไตยในประเทศไทย และถ้าไม่มีเขา รัฐบาลพรรคเพื่อไทยของยิ่งลักษณ์จะไม่มีวันชนะการเลือกตั้งได้

     วันครบรอบห้าปีรัฐประหาร ๑๙ กันยา ควรเป็นวันที่มีการนำนาย สนธิ บุญยรัตกลิน มาขึ้นศาลในข้อหากบฏต่อประชาชนและล้มล้างรัฐธรรมนูญ และควรเป็นวันที่มีการนำนาย ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นศาลในฐานะเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าอีกด้วย

     แต่วันนี้เราเห็นปรากฏการณ์ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มองว่าคนเสื้อแดงเป็นแค่ไพร่ หรือฝุ่นใต้ตีน เมื่อยิ่งลักษณ์ควงนายทหารมือเปื้อนเลือด ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปดูสภาพน้ำท่วมในต่างจังหวัด การกระทำนี้เป็นการก้มหัวให้อำนาจทหาร และฟื้นความชอบธรรมให้ทหารที่ไม่เคยเคารพประชาธิปไตย พร้อมกันนั้นเราเห็นรัฐมนตรีใหม่หลายคนออกมาปกป้องการใช้กฏหมาย 112 ที่เป็นเสาค้ำสำคัญเพื่อปกป้องทหาร กษัตริย์ เผด็จการ และความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย

     นี่คือสาเหตุที่คนเสื้อแดง ในส่วนก้าวหน้า ที่ต้องการประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และความเป็นธรรม จะต้องรวมตัวกันให้เข้มแข็งและอิสระจากอำมาตย์และเพื่อไทย เพื่อเคลื่อนไหวต่อไป ภาระของเรายังไม่จบสิ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น