หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

...เงื่อนไขรัฐประหารยังไม่หมด หากแต่มันยังมาไม่ถึงต่างหาก...
19กย49 ไม่ใช่การรัฐประหารครั้งสุดท้าย
เหตุการณ์ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณโดยกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า
“คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค”
ซึ่ง ต้องยอมรับว่าเป็นครั้งที่มีการร่วมมือกันอย่างกว้างขวางที่สุดและเปิดเผย ที่สุดของผู้ที่มีส่วนร่วมจนทำให้เกิดการรัฐประหาร 19กย49 นี้
สัญลักษณ์และสัญญาณต่าง ๆ ถูกส่งออกมาและใช้กันอย่างกว้างขวางและเปิดเผย
โดยปราศจากการปฏิเสธจาก “แหล่งที่มา” ของสัญลักษณ์และสัญญาณต่าง ๆ เหล่านั้น
และถูกสำทับทำให้ข้อมูลเหล่านั้นดูหนักแน่นยิ่งขึ้นไปอีกด้วยความร่วมมือของ “สื่อ” ต่าง ๆ
ที่พร้อมใจกันโหมประโคมกันอย่างพร้อมใจและพร้อมเพรียง ทำราวกับว่าได้รับ “สัญญาณตรง” มาเองก็ไม่ปาน

ผ่าน ไป 5 ปี หลาย ๆ เหตุการณ์ได้พิสูจน์โดยตัวของมันเองแล้วว่า สัญลักษณ์ หรือ สัญญาณ ต่าง ๆ ที่เคยมีการใช้กันในเหตุการณ์ 19กย49 นั้น
หลาย ๆ อย่างเป็น “ของจริง” ซึ่งทำให้เกิดเป็นสิ่งที่น่าตระหนกยิ่งกว่าตามมาก็คือ “ของจริง” ต่าง ๆ เหล่านั้น
ถูกประมวล ประเมิน และแทนที่ด้วย “ความจริง” เป็นความจริงที่ยากจะหวนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์

และ ก็ต้องทำให้รับรู้กันอย่างจริงจังว่า หลังจากประสบความสำเร็จในเหตุการณ์ 19กย49 แล้ว “ของจริง” ยังไม่เคย “รามือ” เลยแม้แต่นิดเดียว
ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ ที่ตามมาจากผลพวงของการรัฐประหารเมื่อ 19กย49 นั้น
มีแต่ความเข้มข้น เบ็ดเสร็จ และเด็ดขาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ ยุบพรรค ปลดนายกฯ รวมถึงการล้อมฆ่าคนเสื้อแดงกลางเมืองหลวงด้วย

ปัจจัย 2 ประการที่นำไปสู่การรัฐประหาร 19กย49 “ภายใน และ ภายนอกประเทศ”

ภายนอกประเทศ
จากการที่รัฐบาลทักษิณมีแนวโน้มที่จะปรับลดท่าทีที่มีต่อสหรัฐฯ ลง
โดยหันไปทาง ตะวันออกกลาง จีน และ รัสเซียมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก แนวคิดในเรื่อง “Barter Trade”
ซึ่งทำให้สหรัฐฯ สงวนท่าทีต่อการรัฐประหารในครั้งนี้
ภายในประเทศ ภาพของภาคประชาชนถูกกำหนดโดยการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ
โดยหากมองผ่านการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้จะทำให้มองเห็นว่าเป็นการเคลื่อนไหวปกติของภาคประชาชนที่มักจะต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ
หากแต่เป็นข้ออ้างที่ออกจะแปลกประหลาดอยู่สักหน่อย นั่นก็คือ “เผด็จการรัฐสภา” หรือการคอรัปชั่นโกงกินของรัฐบาล
แต่ปัจจัยที่ทำให้ฝ่ายทหารรับมุกก็คือประเด็นการ “ปกป้องสถาบัน”
ซึ่งหากจะมองให้ “ลึก” ลงไปอีกในประเด็นของ “สถาบัน” ผ่านข้อมูลของ Wikileaks
ก็จะทำให้เห็นประเด็นความขัดแย้งที่แท้จริงและชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
นั่นก็คือประเด็นความวิตกกังวลที่กลุ่ม “ชนชั้นสูง” มีต่อ “ภาพพจน์และความสัมพันธ์” ที่ 000 มีต่อคุณทักษิณ
จนถึงประเด็นการมองหาหนทาง “สำรอง”

ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นภายใน ท่ามกลาง "สถานการณ์เปลี่ยนผ่านในช่วงปลายรัชกาล"

และกำลังจะเป็น “เงื่อนไข” ที่จะนำไปสู่การรัฐประหารรอบใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น