แรงงานอังกฤษกว่า 2 ล้านคนนัดหยุดงานประท้วงการตัดสวัสดิการ ของรัฐบาล เมื่อ 30 พ.ย. 54 // ภาพ : www.chinadaily.com.cn
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
ใครในไทยที่ยังหลงเชื่อว่าลัทธิเสรีนิยมจะนำไปสู่ประชาธิปไตย ควรศึกษาสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรป เพราะในรอบเดือนที่ผ่านมามีการทำ “รัฐประหารเงียบ” ใน อิตาลี่และกรีส เพื่อให้มีการแต่งตั้งรัฐบาลเทคโนแครทที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลในสองประเทศนี้จะต้องทำตามคำสั่งนายธนาคารในการทำลายมาตรฐานชีวิต ประชาชน โดยการตัดสวัสดิการ ทำลายการจ้างงาน และตัดการบริการของภาครัฐ ทั้งหมดเพื่อปกป้องธนาคารต่างๆ ของยุโรป และองค์กรหลักที่ทำรัฐประหารคือ ไอเอ็มเอฟ ธนาคารกลางของอียู และองค์กรบริหารอียูซึ่งอยู่ภายใต้รัฐบาลฝ่ายขวาของเยอรมันและฝรั่งเศส
ล่าสุดนายกรัฐมนตรี แองกาลา เมอร์คัล ของเยอรมัน และประธานาธิบดี นิโคลัส ซาโคซี ก็เสนอว่าทุกประเทศในสหภาพยุโรป จะต้องตกลงกันอย่างเคร่งครัดที่จะ “รักษาวินัยทางการคลัง” ซึ่ง เป็นคำสวยหรูที่มีความหมายสกปรกโหดร้าย เพราะไม่ว่าจะออกมาจากปากนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ในไทย หรือออกมาจากปากนักการเมืองฝ่ายขวาในยุโรป มันมีความหมายเดียวคือ ต้องตัดงบประมาณรัฐที่บริการประชาชนส่วนใหญ่ ต้องตัดสวัสดิการ และทำลายการจ้างงาน ในขณะที่เอาใจนายทุนใหญ่และคนรวย
ในกรณียุโรปมีการเสนอว่า “ศาลกลางยุโรป” จะต้องมีอำนาจลงโทษรัฐบาลที่ไม่ทำตามข้อตกลงนี้ ซึ่งแปลว่าประชาชนในแต่ละประเทศจะไม่มีสิทธิเสรีภาพทางประชาธิปไตย ในการเลือกรัฐบาลที่มีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และจะไม่สามารถใช้กลไกประชาธิปไตยในการปกป้องรัฐสวัสดิการหรือเสนอนโยบาย เศรษฐกิจที่ไม่ใช่แนวเสรีนิยม
ล่าสุดนายกรัฐมนตรี แองกาลา เมอร์คัล ของเยอรมัน และประธานาธิบดี นิโคลัส ซาโคซี ก็เสนอว่าทุกประเทศในสหภาพยุโรป จะต้องตกลงกันอย่างเคร่งครัดที่จะ “รักษาวินัยทางการคลัง” ซึ่ง เป็นคำสวยหรูที่มีความหมายสกปรกโหดร้าย เพราะไม่ว่าจะออกมาจากปากนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ในไทย หรือออกมาจากปากนักการเมืองฝ่ายขวาในยุโรป มันมีความหมายเดียวคือ ต้องตัดงบประมาณรัฐที่บริการประชาชนส่วนใหญ่ ต้องตัดสวัสดิการ และทำลายการจ้างงาน ในขณะที่เอาใจนายทุนใหญ่และคนรวย
ในกรณียุโรปมีการเสนอว่า “ศาลกลางยุโรป” จะต้องมีอำนาจลงโทษรัฐบาลที่ไม่ทำตามข้อตกลงนี้ ซึ่งแปลว่าประชาชนในแต่ละประเทศจะไม่มีสิทธิเสรีภาพทางประชาธิปไตย ในการเลือกรัฐบาลที่มีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และจะไม่สามารถใช้กลไกประชาธิปไตยในการปกป้องรัฐสวัสดิการหรือเสนอนโยบาย เศรษฐกิจที่ไม่ใช่แนวเสรีนิยม
นี่ละครับคือเผด็จการเสรีนิยมของนายธนาคารและนายทุน เผด็จการของตลาด
(อ่านต่อ)
http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=6132680428620896545
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น