หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ถึงบรรดา "ขาใหญ่รอยัลลิสต์" กลับไปคิดดูดีๆ ว่าอะไรเป็นเหตุ อะไรเป็ผล

โดย ธนาพล อิ๋วสกุล


(ที่มา)
http://www.facebook.com/notes/thanapol-eawsakul/%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B2-%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%86-%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8-%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5/253967041336809

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่บรรดา “ขาใหญ่รอยัลลิสต์ ” จะออกมาคัดค้านการจะแก้ ม. 112 แม้จะมีเหตุเพื่อรักษาให้สถาบันกษัตริย์อยู่รอดก็ตาม บรรดา“ขาใหญ่รอยัลลิสต์ ”


ไล่ตั้งแต่ พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร 82 ปี (14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2472 – ?) ต้องต่อสู้แม้กับอเมริกาและองค์กรสหประชาชาติ,


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324391460&grpid=no&catid=02&subcatid=0207


 


มีชัย ฤชุพันธุ์ 73 ปี (2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 — ? ) กูรูใหญ่"มีชัย ฤชุพันธุ์"พูดชัดเจนครั้งแรก ว่าด้วยมาตรา 112 ...ต้องอ่าน!!!,
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324480554&grpid=&catid=01&subcatid=0100



และล่าสุด สุเมธ ตันติเวชกุล 71 ปี (26 สิงหาคม พ.ศ. 2482- ? ) "สุเมธ"เตือนสติรบ.อย่าแก้กม.เพื่อ"คนเดียว" ถามทำไมต้องเจาะจงแก้ม.112 ยกโคลงล้อปธน."ยังติดคุก "
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324559235&grpid=00&catid=&subcatid=


จุดร่วมของทั้ง 3 คนนั้น คือมีอายุเฉลี่ยมากกว่าชายไทยโดยทั่วไปแล้ว


เผยคนไทยอายุยืนขึ้น ชายเฉลี่ย 69 หญิง 76 ตายด้วยมะเร็ง-อุบัติเหตุสูง คุณแม่วัยรุ่นพุ่ง 3 เท่า

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1307882712&grpid&catid=19&subcatid=1903


พวกเขาคงจะเห็นสถาบันกษัตริย์เป็นอย่างที่เป็นไปจนชั่วชีวิตเขาก็ได้ แต่ใครจะรู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร

ถ้าพวกเขาพอมีสติอยู่บ้าง เมื่อ 5 ปีที่แล้วเดือนมิถุนายน ทั้ง ๆ ที่มีกระแสเรียกร้องให้เลือกระหว่างทักษิณกับในหลวงจะดังกึกก้องจากฝาก พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่คนจำนวนมากยัง “รักในหลวง ห่วงทักษิณ”


อีก 3 เดือนต่อมา แม้จะมี “รัฐประหารเพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข “ คนจำนวนมากยังใส่เสื้อเหลืองไปต้านรัฐประหารโดยมีเป้าสูงสุดแค่เปรม ติณสูลานนท์


วันที่ 13 ตุลาคม ในอีก 2 ปีต่อมาช่วงเช้ามีข่าวการเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพผู้ชุมนุม พันธมิตร แต่บรรดา “ขาใหญ่” ก็ประเมินสถานการณ์ไม่ออก ไม่แม้แต่จะมีความพยายามยับยั้งหมายกำหนดการดังกล่าว มิหนำซ้ำวันรุ่งขึ้น อานันท์ ปันยารชุน ยังได้เป็นประธานเผาศพแกนนำพันธมิตร ที่เสียชีวิตเพราะพกพาระเบิดมาในรถส่วนตัวของตนเอง


เรายังไม่ต้องพูดถึงการปราบปรามประชาชนในเดือน เมษา-พฤษภา 53 ของบรรดาทหาร นั้นสร้างความรู้สึกอย่างไร


ถ้าพวกเขาพอมีสติสัมปัญชัญญะเหลืออยู่บ้าง คงคิดพิจารณาเองได้ว่า อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผลว่า พวกท่านเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ?


(ที่มา)
http://thaienews.blogspot.com/2011/12/blog-post_9226.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น