ความล้าหลังของพรรคเพื่อไทยและความก้าวหน้าของคณะนิติราษฎร์
ยิ่งคนของพรรคเพื่อไทยหัวเราะต่อกระซิกกับอำมาตย์มากเท่าไหร่
มันก็ยิ่งยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยได้ถอยออกห่างจากความเป็นประชาธิปไตยมากเท่า
นั้น ผ่านมาหลายเดือนบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยก็ยัไม่เกิด
เสรีภาพในการแสดงออกก็ไม่มี มีการเซ็นเซอร์เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ฯลฯ
โดย สมุดบันทึกสีแดง
มันเป็นเรื่องที่น่าละอายอย่างถึงที่สุด
ที่พรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทยซึ่งขึ้นมาเป็นรัฐบาลได้จากการเสียสละของ
วีรชนและการร่วมกันต่อสู้ของพี่น้องเสื้อแดง
ได้เดินหน้าเข้ากราบและเลียแข้งเลียขาอำมาตย์ชนิดที่พวกเราเห็นแล้วรับไม่
ได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่นายกไปเดินเคียงคู่กับพลเอกเปรม หรือ
การใส่ชุดทหารไปงานทหาร
รวมทั้งการเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับกรณีของนักโทษการเมือง 112
ยิ่งคน
ของพรรคเพื่อไทยหัวเราะต่อกระซิกกับอำมาตย์มากเท่าไหร่
มันก็ยิ่งยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยได้ถอยออกห่างจากความเป็นประชาธิปไตยมากเท่า
นั้น ผ่านมาหลายเดือนบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตยก็ยังไม่เกิด
เสรีภาพในการแสดงออกก็ไม่มี มีการเซ็นเซอร์เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ฯลฯ
การสร้างความถูกต้องมันไม่ใช่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แต่มันเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเลือกไม่ทำ
ซึ่งเสื้อแดงส่วนหนึ่งไม่ยอมคิดและเลือกไม่มองข้อผิดพลาดอันนี้
แต่พร้อมที่จะหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ
ว่าการปฏิรูปการเมืองเพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย 100%
อย่างเร็วๆเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตราย
เดี๋ยวผู้เขียนจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป
ตอนนี้คณะนิติราษฎร์
ได้เสนอข้อเสนอในการร่างรัฐธรรมนูญที่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง
โดยยึดกรอบของรัฐธรรมนูญปี 2475 และมีความกล้าหาญที่จะประกาศว่า ก่อนหน้า
2475 นั้น มันไม่เคยมีความคิดที่จะถ่ายโอนอำนาจมาเป็นของประชาชนเลย (http://prachatai.com/journal/2012/01/38876
: 24-01-2012) ซึ่งประเด็นนี้มันจับโกหกพวกนักรัฐศาสตร์เสื้อเหลือง
ที่พวกนั้นชอบอ้างว่าการกระทำของคณะราษฎร์เป็นการกระทำที่ชิงสุกก่อนห่าม
เพราะรัชกาลในสมัยนั้นต้องการจะให้ประชาธิปไตยกับประชนอยู่แล้ว
ซึ่งพวกอำมาตย์ก็สนับสนุนการโกหกเหล่านี้อย่างเอาการเอางาน เช่น
หลักสูตรในแบบเรียนที่เขียนให้ร้ายต่อการกระทำของคณะราษฎร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น