ทำร้ายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ คือ “ความป่าเถื่อนต่อการใช้เหตุผล”
โดยสุรพศ ทวีศักดิ์
เมื่อเราจะร่วมกันสร้างสังคมให้น่าอยู่ หรือสร้างสังคมประชาธิปไตยแบบอารยะ เราจำเป็นต้องปกป้องแม้กระทั่ง“กลุ่มคนที่โดยธรรมชาติแล้วมีความสัมพันธ์ เชิงปฏิปักษ์กับอำนาจ
“ความอยุติธรรมไม่ว่าเกิดขึ้นที่ไหน ย่อมคุกคามความยุติธรรมไปทุกแห่ง”
มาร์ติน ลูเธอร์ คิง
“คนโง่ที่ฉลาดคนไหนก็สามารถสร้างสิ่งใหญ่โต ซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้นได้
แต่การกระทำในทางตรงกันข้ามต้องอาศัยอัจฉริยภาพและความกล้าหาญอย่างมากเท่านั้น”
อี.เอฟ. ชูมาเกอร์
แต่การกระทำในทางตรงกันข้ามต้องอาศัยอัจฉริยภาพและความกล้าหาญอย่างมากเท่านั้น”
อี.เอฟ. ชูมาเกอร์
“บางครั้งฉันคิดว่าโลกแบ่งเป็นกลุ่ม
คือกลุ่มคนที่มีสายสัมพันธ์อันอบอุ่นกับอำนาจ
กับกลุ่มคนที่โดยธรรมชาติแล้วมีความสัมพันธ์เชิงปฏิปักษ์กับอำนาจ”
อรุณธตี รอย
คือกลุ่มคนที่มีสายสัมพันธ์อันอบอุ่นกับอำนาจ
กับกลุ่มคนที่โดยธรรมชาติแล้วมีความสัมพันธ์เชิงปฏิปักษ์กับอำนาจ”
อรุณธตี รอย
ความรู้สึกสะเทือนใจ เศร้า หดหู่กับข่าวการทำร้ายร่างกายอาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ก็มากพออยู่แล้ว แต่ยิ่งรู้สึก “สะเทือนใจ” ยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเห็นข่าวนักวิชาการรุ่นใหญ่ อดีตคนเดือนตุลาและเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำ ออกมาแสดงความเห็นว่า
“...เรื่องดังกล่าวน่าจะเกิดจากความขัดแย้งของสังคม อัน เนื่องมาจากการแสดงความคิดเห็น ดังนั้น การที่นักวิชาการจะเสนอความเห็นต่างๆ จะต้องระมัดระวัง เพราะอาจจะกระทบกับอารมณ์ความรู้สึกของคนในสังคมได้ และอาจนำมาซึ่งความขัดแย้ง”
แต่กลับไม่มีคำเตือนสื่อ นักวิชาการที่โจมตี ใส่ร้ายด้วยความเท็จต่างๆ นานาว่า อาจารย์วรเจตน์และกลุ่มนิติราษฎร์ “ล้มเจ้า” เพื่อปลุกกระแสความขัดแย้งในสังคม
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/03/39477
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น