หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

แด่วันนักเขียน (ย้อน)ไปดูบทพูดคุยเรื่อง ‘ความบ้าและความโง่’ กับ ‘บัณฑิต อานียา’

แด่วันนักเขียน (ย้อน)ไปดูบทพูดคุยเรื่อง ‘ความบ้าและความโง่’ กับ ‘บัณฑิต อานียา’

 

 ‘5 พ.ค.’ วันนักเขียน อ่านบทสัมภาษณ์ ‘บัณฑิต อานียา’ (ถึงจะเก่าแต่ยังไม่ได้เผยแพร่ที่ไหน) นักเขียนอาวุโส ผู้ได้รับความสนใจขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน (อาจจะโดยไม่ตั้งใจ) หลังวิกฤตการเมืองไทยยุครถไฟขบวน 112 วันนี้เราลองมาคุยถึงเรื่องตัวตนและงานของนักเขียนที่ได้รับการยกย่องว่า ‘กึ่งบ้า-กึ่งอัจฉริยะ’ และมุมมองต่อ 'ความโง่' ในสังคมไทย




ย้อนไปต้นเดือนตุลาคมในขณะที่ในเมืองกรุงยังคงไร้ความกังวลเรื่องมวลน้ำ พวกเราได้นัดพูดคุยกับลุง ‘บัณฑิต อานียา’  นักเขียน ‘เสียดสี’ รุ่นเดอะที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทนแรง ‘เสียดทาน’ จนแทบกระอัก มาอย่างยาวนานคนหนึ่ง 

อารมเสียดสีและการท้าทายสังคมผ่านงานเขียนของลุงบัณฑิตนั้นหลายครั้งก็ทำ ให้ขำไม่ออก เมื่อเจ้าตัวต้องไประเห็จไปอยู่ในเรือนจำ รวมถึงเกือบถูกช๊อตไฟฟ้าในโรงพยาบาลจิตเวช ในข้อหา ‘คนบ้า’ และอาจจะเป็นนักเขียนเจ้าเดียวในประเทศไทยที่ผ่านโรงพยาบาลบ้ามาถึง 3 สถาบัน
นี่เป็นอีกหนึ่งบทสัมภาษณ์ กับนักเขียนที่อาจจะ ‘บ้า’ เกินไปสำหรับสังคมไทย ‘ไทย’ …

0 0 0
“ผมก็ดีขึ้น 50% และผมอยากจะหายให้หมด ถ้ามีคนซื้อหนังสือผม ผมก็อาจจะหายบ้าได้”

ได้ข่าวว่าเป็นคนบ้า?

คือไม่ใช่ข่าวครับ มันเป็นความจริงเลยครับ
ก็คือผมผ่านโรงพยาบาลโรคจิตมาสามสถาบัน จิตแพทย์สามคนลงความเห็นว่าผมเป็นโรคจิต
แต่ผมเคยอ่านนิตยสารชัยพฤกษ์ เมื่อหลายสิบปีก่อนอาจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวว่าถ้าจิตแพทย์กับคนไข้โรคจิต ได้พบกัน จิตแพทย์จะยังไม่รักษา แต่จิตแพทย์มีหน้าที่พูดให้คนไข้โรคจิตรู้ตัวว่าตัวเองเป็นโรคจิตและก็ยอม รับว่าตัวเองเป็นโรคจิต ถ้าคนไข้คนไข้รู้ตัวและยอมรับว่าตัวเองเป็นโรคจิต อาการโรคจิตก็จะหายไป 50% ส่วนอีก 50% อยู่ที่การรักษาพยาบาล

ในทำนองเดียวกันนี้เมื่อจิตแพทย์สามคนบอกว่าผมเป็นโรคจิตและผมก็ยอมรับ ว่าผมเป็นโรคจิต อาการโรคจิตของผมก็หายไปแล้ว 50% อีก 50% จะหายก็ต่อเมื่อมีคนซื้อหนังสือผม
เพราะฉะนั้นคุณต้องซื้อผมถึงจะหายเป็นโรคจิต


เมื่อยอมรับแล้วเป็นยังไงต่อ?
 
ผมก็ดีขึ้น 50% และผมอยากจะหายให้หมด ถ้ามีคนซื้อหนังสือผม ผมก็อาจจะหายบ้าได้

แล้วคนอื่นจะเป็นบ้าไหม ถ้าอ่านหนังสือลุงบัณฑิต?

ถ้าคนอื่นเป็นบ้าผมได้ยิ่งดีเลย แผ่นดินนี้จะได้น่าอยู่ขึ้น ระบบการปกครองจะได้ดีขึ้น

ทำไมถึงมีความพยายามที่จะดิ้นรนขายหนังสือของตัวเองขนาดนั้น?

ก็เรามีความคิดที่จะเผยแพร่ความคิดที่ดีงามและถูกต้อง ให้สังคมไทย เพราะสังคมไทยเป็นสังคมที่เลว ต้องเอาหนังสือผมไปเผยแพร่ แล้วจะรู้ว่ามันดียังไง และผมอธิบายได้ ว่าสิ่งที่ผมเสนอในหนังสือเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินไทย ต่อคนไทยทั้งแผ่นดิน และผมก็สู้มาตลอด

สังคมไทยเป็นสังคมที่เลวเพราะระบอบปกครองมันเลว รัฐธรรมนูญมันก็เลว กฎหมายมันก็เลว กระบวนการยุติธรรมมันก็เลว สื่อมวลชนมันก็เลว นักวิชาการมันก็เลว
แล้วพวกคุณเป็นสื่อมวลชนหรือเปล่า คุณเป็นคนดีหรือคนเลว


ระบบการปกครองมันเลวยังไงบ้าง?

ระบอบการปกครองมันทำให้พวกที่มีอำนาจมีอำนาจเหนือทุก สิ่งทุกอย่าง จนกระทั่งทำให้ประชาชนกลายเป็นสัตว์หรือต่ำยิ่งกว่าสัตว์ และระบอบการปกครองแบบนี้มันผูกขาดด้วย

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/05/40369

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น