หน้าเว็บ

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ยุบศาลรัฐธรรมนูญเสียเถอะ

ยุบศาลรัฐธรรมนูญเสียเถอะ

 

โดยสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ


เมื่อวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญไทย ได้มีมติ 7 ต่อ 1 ให้รับคำร้องของกลุ่ม 40 สมาชิกวุฒิสภาที่นำโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ลากตั้ง โดยอ้างถึงกรณีที่รัฐสภาได้ผ่านการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ขั้นวาระที่สองในมาตรา 291 ให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อร่างรัฐธรรมูญฉบับใหม่ โดยศาลรัฐธรรมูญเห็นว่า การดำเนินการเช่นนั้น อาจเป็นการลบล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมาพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ศาลจึงออกคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการพิจารณาลงมติร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมในวาระ 3 ที่จะมีขึ้นวันที่ 5 มิถุนายน 2555 เอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา

ในคำอธิบายของศาลรัฐธรรมนูญอ้างการตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ซึ่งระบุไว้ว่า ผู้ทราบการกระทำว่า มีบุคคลหรือพรรคการเมืองกระทำการเพื่อลบล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีสิทธิ์เสนอเรื่องต่ออัยการสูงสุด และเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพื่อดำเนินการวินิจฉัยสั่งการให้เลิกกระทำ การดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีอำนาจรับเรื่องพิจารณาได้ และเมื่อศาลรับพิจารณา แล้วรัฐสภาก็ต้องชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามคำสั่ง

กรณีนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของผู้ใช้อำนาจตุลาการ ใช้อำนาจแทรกแซงการดำเนินการของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่กระนั้น คงต้องเริ่มอธิบายว่า การใช้อำนาจตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ก็มาจากการตีความเอาเองของศาล เพราะตามข้อบัญญัติในเรื่องนี้จะต้องให้ผู้ร้องเสนอต่ออัยการสูงสุด แล้วให้อัยการสูงสุดเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ การตีความเช่นนี้ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจล้นฟ้า และถือกันว่าเป็นการยึดอำนาจโดยศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสถาปนาสูงสุด เหนือกว่ารัฐสภา ที่ได้รับอาณัติมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ยิ่งกว่านั้น การออกคำสั่งต่อรัฐสภาก็เป็นการดำเนินการโดยไม่มีกฏหมายใดรองรับ เป็นการใช้อำนาจสั่งเอง

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/07/41497

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น