ศึกษา การเมือง กรณี วีซ่า ′ทักษิณ′ ยอกย้อน กินตัว
ไม่ว่ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐจะแถลงหรือไม่
ไม่ว่าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงเทพจะแถลงหรือไม่
แต่กรณีวีซ่าเข้าสหรัฐของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็แจ่มชัด
เป็นความแจ่มชัดเหมือนกับวีซ่าเข้าญี่ปุ่น เป็นความแจ่มชัดเหมือนกับวีซ่าเข้าจีน เป็นความแจ่มชัดเหมือนกับวีซ่าเข้าสหราชอาณาจักร
แทบไม่ต้องระบุถึงวีซ่าเข้าสหภาพยุโรป
น่าเห็นใจ นายกษิต ภิรมย์ อย่างยิ่งที่รับทราบกระบวนการเหล่านี้ก็ต่อเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปยังประเทศนั้นๆ แล้ว
กระนั้น ก็น่าแปลกใจในความหงุดหงิด
เป็นความหงุดหงิดต่อสหรัฐ ขณะที่เกือบไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้ของ นายกษิต ภิรมย์ ต่อจีน ต่อสหราชอาณาจักร
หรือแม้กระทั่งต่อหลายประเทศในกลุ่มอาเซียน
น่า เห็นใจเพราะว่า ณ วันนี้ นายกษิต ภิรมย์ คือ "อดีต" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่น่าแปลกใจที่ ณ วันนี้ นายกษิต ภิรมย์ ก็ทำเหมือนกับไม่เข้าใจว่าเป็นเรื่องอันใด
การเมือง
ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องการเมือง และเป็นการเมืองอันอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์เน็ต-เน็ต ไม่มีเรื่องอื่นเจือปน
ที่ห้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าก็เป็นเรื่องการเมือง
เพราะ ท่าทีของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เพราะท่าทีของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลอันตราย
ที่ให้วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าก็เป็นเรื่องการเมือง
เพราะท่าทีของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นอันตรายอีกแล้ว
เหตุผลว่าด้วย "การเมือง" จึงเหมือนเหรียญ 2 ด้าน
หาก เป็นเหรียญอันเริ่มจากจุดของรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ย่อมเห็นอย่างหนึ่ง หากเป็นเหรียญอันเริ่มจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ซึ่งต่อเนื่องมายังพรรคเพื่อไทย ย่อมเห็นอีกอย่างหนึ่ง
เป็นการเมืองคนละด้าน เป็นการเมืองคนละมุม
ต่าง ประเทศจึงต้องอนุมัติไปตามแต่เหตุผลที่รัฐบาลอันชอบด้วยกฎหมายจะเสนอไปให้ เหตุผลของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงต่างจากเหตุผลของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1341820828&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น