หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สานเสวนาว่าด้วยศรัทธาต่อสถาบันตุลาการ / ตำนานฐานรากและการเลิกเชื่อ

สานเสวนาว่าด้วยศรัทธาต่อสถาบันตุลาการ / ตำนานฐานรากและการเลิกเชื่อ

 




 

 

 

 

  ภาพจำลองอุปมานิทัศน์เรื่องถ้ำ (Allegory of the Cave) ของเพลโต

ในบทสนทนาปรัชญาเรื่อง The Republic

ภาพจำลองอุปมานิทัศน์เรื่องถ้ำ (Allegory of the Cave) ของเพลโต

ในบทสนทนาปรัชญาเรื่อง The Republi

โดย เกษียร เตชะพีระ


ความขัดแย้งเรื่องอำนาจบัญญัติรัฐธรรมนูญระหว่างรัฐสภากับ ศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็น ประเด็นสานเสวนาในหมู่เพื่อนเฟซบุ๊กของผม มีประเด็นเกี่ยวข้องแตกแขนงออกไปน่าสนใจ ผมขออนุญาตนำมาเรียบเรียงเล่าต่อดังนี้:

1) ตำนานฐานรากและการเลิกเชื่อ

คุณ CL อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่นที่ไปสอนอยู่ที่ออสเตรเลีย:

เรื่อง ศรัทธานั้นจะว่าไปก็จริงอยู่เพราะการที่คนเราศรัทธาอะไรสักอย่างหนึ่งบางที มันก็ไม่มีเหตุผลว่าทำไมหรือเพราะอะไร จะไปตัดสินว่าถูกหรือผิดก็ไม่มีใครรู้ได้เพราะมันเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ล้วนๆ เช่น ความเชื่อในเรื่องศาสนา หรือปูชนียบุคคลรูปเคารพต่างๆ (เหมือนที่อาจารย์เกษียรเคยเขียนว่าควร handle with care หรือจัดการอย่างระมัดระวัง)

แต่ในเรื่องของสถาบันตุลาการนั้น มันเกี่ยวข้องยึดโยงกับคนมากมายหลายกลุ่มในสังคม ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งกลุ่มคนที่ศรัทธาทั้งตัวและหัวใจและกลุ่มคนที่ยอมเชื่อ ในกรอบเหล่านั้น ไม่ใช่เพราะศรัทธาแต่เพราะเชื่อว่ามีหลักการและเหตุผลเพียงพอที่จะเชื่อ การใช้เรื่องของศรัทธาเข้ามาอธิบายว่าควรเชื่อในคำตัดสินของศาลแม้ว่าจะขาด หลักการและเหตุผลที่เป็นที่ยอมรับเลยฟังดูไม่ค่อย make sense (สมเหตุสมผล) เท่าไหร่

ผมแสดงความเห็นกลับไปว่า:

คำว่าสังคมดำรงอยู่ด้วย ศรัทธามีเค้าความจริงอยู่ ในทางปรัชญาการเมืองผมเรียกมันว่า foundational myth/foundational fiction หรือตำนาน/นิยายฐานรากของรัฐ เป็นฐานความเชื่อร่วมกัน และสังคมหวงแหนระแวดระวังมาก ห้ามท้า ห้ามถาม แต่ละรัฐก็จะยึดถือตำนานฐานรากต่างกันไป มันสำคัญขนาดทำให้ความต่างในหมู่ประชากรไม่ว่าชนชั้น ชนชาติ เพศ ศาสนา ฯลฯ จางเจือลดความหมาย และก็สำคัญขนาดทำให้ความเหมือนทุกอย่างไม่มีน้ำหนัก ถ้าแตกต่างไม่ยอมรับกัน เรื่องนี้ตำนานฐานรากสำคัญเพราะมันช่วยระดมพลังคนในรัฐมาร่วมกันทำภารกิจรวม หมู่ยากๆ ได้ สละหยาดเหงื่อแรงงานทรัพย์สินกระทั่งชีวิตเลือดเนื้อได้ แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้คนในรัฐลุกขึ้นมาฆ่ากันได้ด้วย


(อ่านต่อ) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1341557524&grpid=&catid=02&subcatid=0200

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น