หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กรณี 98 ศพ จะเอาผิดเฉพาะผู้สั่งการไม่ได้

กรณี 98 ศพ จะเอาผิดเฉพาะผู้สั่งการไม่ได้


 


"อย่ากลัวทหารจนอุจจาระขึ้นสมอง และอย่าเล่นการเมืองจนลืมหลักการทางกฎหมาย เสียชื่อที่เคยเป็นอดีตทหารเก่าและเป็นนักกฎหมายในระดับปริญญาเอก"

ผมไม่เห็นด้วยกับคุณเฉลิม อยู่บำรุง ที่ให้สัมภาษณ์ว่าคดีชันสูตรพลิกศพที่ บชน.เป็นผู้รับผิดชอบ และสิ่งที่ดีเอสไอทำ เป็นไปตามที่มีคนมาร้องทุกข์ว่าให้ดำเนินการกับผู้สั่งการ ไม่ได้ร้องให้ดำเนินคดีกับผู้ปฏิบัติ ส่วนคดีอื่นๆ หากจะให้ดำเนินการ ก็ต้องมีคนมาร้องทุกข์ก่อน

"ผบ.ทบ.ทราบ และเข้าใจดีว่าเราไม่มีเจตนาที่จะไปทำร้ายทำลายกองทัพ ฝากบอกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าถ้ามีวิธีคิดดีๆ ว่าจะสั่งดีเอสไอเช็กบิลพรรคประชาธิปัตย์ได้ ช่วยแนะนำผมหน่อยจะได้ฉลองศรัทธา เพราะมันทำไม่ได้ ถ้าไม่ผิดก็คือไม่ผิด และทหารตำรวจไม่เกี่ยวข้อง คนที่สั่งการต้องรับผิดชอบ และผมได้กำชับ ผบช.น.ไปแล้วว่าให้ทำงานไปตามหลักฐาน และอย่าให้สัมภาษณ์” ร.ต.อ. เฉลิมกล่าว(http://www.khaosod.co.th /view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakUzTURnMU5RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1pMHdPQzB4Tnc9PQ==)

ผมไม่แปลกใจในการให้สัมภาษณ์ของคุณเฉลิมที่ออกมาในลักษณะนี้ เพราะประสบการณ์ในอดีตของคุณเฉลิมที่ได้เคยอพยพหลบหนีภัยอย่างหัวซุกหัวซุน จากการปฏิวัติรัฐประหารโดยทหารในอดีตมาแล้ว
แต่ทว่าบัดนี้สถานการณ์เปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ข้อเท็จจริงเปลี่ยน ที่สำคัญก็คือผมไม่เชื่อว่าทหารจะลากรถถังมาปฏิวัติรัฐประหารอีกโดยไม่ถูก ต่อต้านจากประชาชน

การให้สัมภาษณ์ของคุณเฉลิมในลักษณะนี้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากรณี 98 ศพนี้จะเอาผิดได้เฉพาะ ผู้สั่งการซึ่งเป็นฝ่ายการเมืองซึ่งหมายถึงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีและคุณสุเทพ เทือกสุบรรณในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ ศอฉ. นั้น ไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นด้วยประเด็นข้อกฎหมายหรือข้อเท็จจริง

จริงอยู่ในกรณีนี้ผู้สั่งการต้องรับผิดชอบอย่างแน่นอนและหลีกเลี่ยงไม่ ได้ แต่ผู้ปฏิบัติก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะมาตรา 17 ของ พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 บัญญัติไว้ว่า

“มาตรา 17 พนักงานเจ้าหน้าที่และผู้มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชกำหนดนี้ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับหรือป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย หากเป็นการกระทำที่สุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่”

ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าการคุ้มครองนั้นจะคุ้มครองเฉพาะ “หากเป็นการกระทำที่สุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น” เท่านั้น
ประเด็นจึงมีอยู่ว่า

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42211

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น