หน้าเว็บ

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

'สมรภูมิกาซา' ทดสอบอำนาจสหรัฐฯในตะวันออกกลาง

'สมรภูมิกาซา' ทดสอบอำนาจสหรัฐฯในตะวันออกกลา

 

'คลินตัน' พบผู้นำปาเลสไตน์

การเยือนตะวันออกกลางของนางคลินตันในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤติการณ์ ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ถูกมองว่าเป็นการหยั่งเชิงทดสอบอิทธิพลของสหรัฐฯในภูมิภาค ซึ่งดูเหมือนจะลดน้อยลงนับจากการปฏิวัติประชาชนในปรากฏการณ์อาหรับสปริง
 
ในขณะที่ตลอดต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างจับตามองที่การเดินทางเยือน 3 ประเทศในอาเซียนและเข้าร่วมประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมถึงการเปลี่ยนนโยบายหันกลับมาหาภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นนโยบายต่างประเทศที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลโอบามา 2 ภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดศุนย์กลางด้านนโยบายต่างประเทศและความ มั่นคงของสหรัฐฯมาโดยตลอด กลับตกอยู่ในวิกฤติการณ์ครั้งสำคัญ นั่นก็คือการปะทะทางทหารระหว่างอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธในกาซาของ ปาเลสไตน์ ซึ่งมีทีท่าว่าอาจบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบได้
 
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ทันทีที่เสร็จสิ้นภารกิจในการประชุมอาเซียนที่กัมพูชา นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องบินด่วนมายังอิสราเอล พร้อมทั้งประกาศจะเดินทางเยือนอียิปต์และปาเลสไตน์เพื่อหารือเกี่ยวกับความ ขัดแย้งในครั้งนี้

 
จุดประสงค์ของนายคลินตันในการเดินทางมายังตะวันออกกลางในช่วงเวลาวิกฤติเช่น นี้ มีหลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐฯ กับอิสราเอลในด้านความมั่นคง ขณะที่การเยือนปาเลสไตน์ก็จะเป็นการเน้นย้ำว่านายมาห์มุด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์คนปัจจุบัน เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของปาเลสไตน์ ไม่ใช่กลุ่มฮามาส ซึ่งเริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นจากการเป็นจุดสนใจในการตอบโต้ทางทหารกับ อิสราเอลตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
แต่จุดหมายสำคัญที่สุดของนางคลินตันก็คืออียิปต์ รวมถึงการผลักดันให้การเจรจาหยุดยิงที่นายโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีอียิปต์เป็นผู้ผลักดันมาโดยตลอดได้รับการยอมรับทั้งจากอิสราเอล และฮามาส เนื่องจากถึงแม้ว่าอียิปต์ ผู้นำชาติมุสลิมในตะวันออกกลาง จะให้การสนับสนุนปาเลสไตน์อย่างเปิดเผย ขณะที่สหรัฐฯฌองก็ประกาศชัดเจนว่าสนับสนุนการกระทำของอิสราเอลในฐานะการ ป้องกันตนเอง
 
แต่แน่นอนว่าทั้งสหรัฐฯและอียิปต์ ไม่ต้องการให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ นางคลินตันจึงเดินเกมอย่างชาญฉลาด ด้วยการสนับสนุนสนธิสัญญาหยุดยิงของอียิปต์ ซึ่งเท่ากับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ และการกระชับความสัมพันธ์กับอียิปต์ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญไปสู่การฟื้นฟูอิทธิพลของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง ที่ลดน้อยถอยลงอย่างมากนับตั้งแต่การลุกฮือของประชาชนโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการ ในกระแสอาหรับสปริง ซึ่งนำไปสู่การขึ้นสู่อำนาจของรัฐบาลมุสลิมเคร่งศาสนาในหลายประเทศ รวมถึงในอียิปต์เอง
 
ซึ่งหากการเจรจาหยุดยิงสำเร็จไปได้ด้วยดี และสามารถยับยั้งสงครามในตะวันออกกลางได้ พร้อมกับนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างอียิปต์กับสหรัฐฯ รัฐบาลของนายโอบามา ก็น่าจะหมดภาระในการประคับประคองตะวันออกกลาง และหันกลับมามุ่งความสนใจในการพัฒนาความสัมพันธ์กับเอเชีย และคานอำนาจกับจีนอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจที่หนักหนาและท้าทายไม่แพ้กัน

(ที่มา)
http://news.voicetv.co.th/global/56653.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น