หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สงคราม ยืดเยื้อ ไม่จบ เพียง ′เสธ.อ้าย′ ยังมี เสธ.อื่นรออยู่

สงคราม ยืดเยื้อ ไม่จบ เพียง ′เสธ.อ้าย′ ยังมี เสธ.อื่นรออยู่



 
การยอมสลายแต่โดยดีของม็อบ อพส.คล้ายกับเป็นชัยชนะของรัฐบาล เป็นชัยชนะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง-มิใช่

 
เพราะการชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าเสมอเป็นเพียงยุทธการ 1 ในแผนการทั้งหมดอันมีการจัดวางเอาไว้แล้ว

หลังควันแก๊สน้ำตาจางรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องเดินเข้าสภา

จาก วันที่ 25 ถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน ไม่เพียงแต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก หากแม้กระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องถูกจับขึ้นเขียงในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ

นี่ มิได้เป็นเรื่องในระบบรัฐสภาเท่านั้น หากแต่ที่สำคัญยังต้องเข้าสู่ระบบการถอดถอนผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

และหากเข้าข่ายก็จะต้องเดินขึ้นสู่ตะแลงแกงแห่งศาลรัฐธรรมนูญในที่สุด

ขณะ ที่ในความเป็นจริง ม็อบ อพส.ที่ประกาศสลายตัวก็เสมอเป็นเพียง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่อำลาจากไป คนอื่นๆ ยังอยู่ครบหน้า

และยังพร้อมจัด "ม็อบ" แช่แข็ง ปิดประเทศ ต่อไป

มี ความจำเป็นไม่เพียงแต่แกนนำฝ่ายต้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เท่านั้นที่จะต้องนำกรณีม็อบแช่แข็งมาศึกษา สังเคราะห์ อย่างเข้มงวด จริงจัง

หากแม้กระทั่ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ก็ต้องขบคิด พิจารณา

มองจากมุมของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประหนึ่งว่าจำนวนที่คาดหมายเอาไว้อย่างน้อย 1 แสน อย่างมาก 1 ล้าน ไม่ปรากฏเป็นจริง

 
แทนที่จะโทษตัวเอง กลับโทษรัฐบาล

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง จุดเริ่มต้นของม็อบ อพส.มิได้เริ่มต้นจากสภาพความเป็นจริงที่ดำรงอยู่ในทางเศรษฐกิจ ในทางการเมือง



หากเริ่มต้นจากความเพ้อฝัน เริ่มต้นจากความปรารถนาในทางอัตวิสัย

นั่น ก็คือ คิดเองเออเองว่าประชาชนไม่พอใจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระทั่งจะสามารถก่อการปฏิวัติโดยประชาชนได้เหมือนที่เกิดขึ้นในตูนีเซีย ในอียิปต์ ในลิเบีย อย่างที่เรียกกันว่า "อาหรับสปริง"

เพ้อฝันถึงขนาดคิดจะแช่แข็ง คิดจะปิดประเทศอย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปี

เมื่อ เพ้อฝันกระทั่งเอาความปรารถนาส่วนตัวมากำหนดเป็นทิศทาง เป็นนโยบาย โดยมิได้คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงอย่างที่เป็นจริง ผลที่สุดก็ต้องล้มเหลว

และอาจจะล้มเหลวต่อไปหากไม่ปรับความคิดด้วยการหาสัจจะจากความจริงให้เข้มข้นขึ้น

ไม่เพียงแต่ อพส.จะวิเคราะห์สภาพของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผิดพลาดคลาดเคลื่อน หากยังอาศัยความเคยชินเก่ามาเป็นหนทางลัด

นั่นก็คือ เพ้อฝันที่จะก่อความรุนแรงขึ้นเพื่อเชื้อเชิญทหารให้ตัดสินใจ

ความ พยายามของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ในการต่อสายไปยังแม่ทัพภาคที่ 1 ไปยังรอง ผบ.ทบ.หรือแม้กระทั่ง ผบ.ทบ. ก็เหมือนกับความพยายามของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในการต่อสาย และเข้าพบ ผบ.ทบ.เมื่อปี 2549

เพราะรู้อยู่ว่าปัจจัยการเปลี่ยนแปลงย่อมมาจากการตัดสินใจของทหาร ของกองทัพ

แต่เมื่อได้รับการเมินเฉยจากกองทัพ แม้แต่การจะเข้าไปในกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

ปราสาททรายก็พังครืน

แม้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ จะอำลาจากไปพร้อมกับบทเรียนอันแสนเจ็บปวดเพราะความอ่อนหัดทางการเมือง อ่อนหัดในการควบคุมมวลชน กระนั้น น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ก็ยังอยู่
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังอยู่

ขบวน การรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็ยังดำรงคงอยู่อย่างครบครัน เพียงแต่รอเวลาสอดประสานสำแดงตัวเข้ามาในเงื่อนไขอันเหมาะสมเท่านั้น

สงครามจึงยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร

การศึกยังมีอยู่ในหนทางรัฐสภา การศึกยังมีอยู่ในกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ องค์กรอิสระครบครัน

เพียง แต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จักต้องบริหารราชการแผ่นดินด้วยความสุจริตโปร่งใส ยึดโยงอยู่กับผลประโยชน์ประชาชน สัมพันธ์กับมวลมหาประชาชนอย่างแนบแน่น

ประชาชนนั่นแหละจะเป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็กให้


(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353900260&grpid=01&catid=&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น