หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ใน"เสี่ยง"มี"โอกาส"

ใน"เสี่ยง"มี"โอกาส"
 

 

ไม่ต้องสงสัย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใชัยุทธศาสตร์ "โลกล้อมไทย" แน่นอน

ใช้ โลกที่อ้าแขนต้อนรับ "นายกรัฐมนตรีหญิงต้นทุนต่ำ" อย่างอบอุ่น ย้อนกลับมาถามคนในประเทศว่าจะไม่เชื่อมั่นนายกฯของตนเองเพิ่มขึ้นบ้างหรือ

ใช้ โลกที่ปฏิเสธการปฏิวัติรัฐประหาร และไม่คบค้าผู้นำเผด็จการ ย้อนกลับมาสกัด และป้องปราม กลุ่มที่ยังคิด "แช่แข็งประเทศ" และกลุ่มที่เรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจให้ยุติการกระทำนั้นลงเสีย

ยุทธศาสตร์ "โลกล้อมไทย" จึงเป็นประโยชน์ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รัฐบาล และพรรคเพื่อไทยเต็มๆ

ซึ่งย่อมทำให้คู่แข่งทางการเมือง อย่างประชาธิปัตย์ ขัดเคือง

ย่อมทำให้ ฝ่ายที่เกลียด "ปู" และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน และมองเห็นแต่ด้านลบของการไปเฉิดฉายในเวทีต่างประเทศ

พร้อมกับชูป้าย "ผลประโยชน์ทับซ้อน" ใส่ว่า แอบเอาธุรกิจของครอบครัวไปหากิน

นี่ย่อม เป็นการต่อสู้ทางการเมือง

และท้าทายให้พิสูจน์ว่าใครถูกใครผิด ตามระบอบประชาธิปไตย

ย้ำตามระบอบประชาธิปไตย

มิใช่ ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ใช้เป็นข้ออ้างสะวิงไปสุดขั้วว่า นี่คือ ความเลวของนักการเมือง จึงต้องแช่แข็ง "นักการเมือง"

และต้องพักการเลือกตั้งลงชั่วคราว

แม้ฟังดูดีกว่าแช่แข็งประเทศหน่อย แต่ก็ไม่น่ารับได้

เพราะมันก็ไม่ต่างกับปฏิวัติซ่อนรูป นั่นเอง

และถือเป็นการปิดประตู-หน้าต่างประเทศ โดยไม่สนว่าโลกไปถึงไหนแล้ว

ซึ่งอย่าหวังทำได้

ยิ่ง ตอนนี้ "ภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลก" ไทยได้กลายเป็นจุดศูนย์กลาง ที่มหาอำนาจโลก ใช้เป็นทางผ่านไปสู่ "เป้าหมาย" ที่เขาต้องการอย่างชัดเจน

ดูการมาเยือนของ ประธานาธิบดีโอบามา และ นายกฯเวิน เจียเป่า เป็นตัวอย่าง

แน่นอน ทั้ง สหรัฐ และ จีน ไม่ได้รักประเทศไทยอะไรนักหนา

ต่างพ่วงเอาผลประโยชน์ของเขามาเต็มที่



แต่กระนั้น ก็มี "ประโยชน์" ที่เราจะได้ พ่วงอยู่ด้วย ไม่ใช่ไม่มี

การมาของมหาอำนาจและนานาชาติ จึงถือว่าเป็นทั้ง "ความเสี่ยง"

และเป็นทั้ง "โอกาส"

ซึ่ง นี่จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทีมที่ปรึกษา ที่บินโชว์มาทั่วโลกแล้วว่าจะเข้าใจ และสร้างประโยชน์จาก "โอกาส" นี้อย่างไร

จะพาชาติลงเหวตามความห่วงใยของฝ่ายต่างๆ กรณีที่สหรัฐเสนอให้ไทย เริ่มต้นขบวนการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) หรือไม่

หรือไทยจะเป็นเพียงประตูทางผ่านของจีนลงไปสู่ทะเลแปซิฟิกและอันดามัน ด้วยรถไฟความเร็วสูงที่เอามาล่อใจเท่านั้นหรือเปล่า

เหล่านี้ล้วนรอพิสูจน์ความมีกึ๋นของนายกฯ ของรัฐบาล ทั้งสิ้น

แน่นอนถ้าทำดี หรือได้ประโยชน์จาก "โอกาส" เต็มที่ ก็ควรยกย่องสรรเสริญ

ถ้าทำแย่ รับแต่ความเสี่ยง ก็ไม่ควรอยู่บริหารต่อไป

แต่การ "ไป" ก็ต้องขีดเส้นใต้ชัดๆ อีกนั่นแหละ

ควรเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ทางอื่น

เพราะความเป็นประชาธิปไตยคือแต้มต่ออันสำคัญ ที่ไทยจะใช้เป็น "โอกาส" หาประโยชน์จากนานาชาติที่แห่เข้ามาตอม

แต่วันใดที่เลือกทาง "แช่แข็งประเทศ" "แช่แข็งนักการเมือง" "ไม่มีเลือกตั้ง" อย่างที่จะเคลื่อนไหวกันไม่กี่วันนี้

ฟันธงลงไปได้เลย "โอกาสจะมลายหายไป"

นานาชาติจะเลิกคบค้า

เหลือแต่ "ไดโนซอรัส" เดินเพ่นพ่านเท่านั้น


(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353126318&grpid=01&catid=&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น