หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สถานการณ์ แช่แข็ง ปรากฏการณ์ ปิดประเทศ ศึกษา "พันธมิตร"

สถานการณ์ แช่แข็ง ปรากฏการณ์ ปิดประเทศ ศึกษา "พันธมิตร"




ทําไมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิป ไตยจึงไม่ "ออกมา" ร่วมชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยามของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์

เพราะว่าพันธมิตรสวมวิญญาณ "เบิร์ดโนว์"
ไม่ว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ว่า พล.ต. จำลอง ศรีเมือง ล้วนแสดงการสนับสนุน ต่อการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ในทางความคิด

แต่ในทางการเมือง-ยังสงวนท่าที

ยิ่งในทางการจัดตั้ง ยิ่งมากด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างสูง

นี่ ย่อมแตกต่างไปจากกลุ่มสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจ นี่ย่อมแตกต่างไปจากเครือข่ายสมัชชาเกษตรกรรายย่อย นี่ย่อมแตกต่างไปจากแนวร่วมกลุ่มปฏิรูปที่ดิน

เป็นจุดร่วมในทางความคิด แต่ยังมีจุดต่างในทางการเมือง และยังมีจุดต่างในทาง การจัดตั้ง จึงยังไม่เข้าร่วมอย่างเต็มตัว

เสมอเป็นเพียงการแสดงความเห็นอกเห็นใจ

เสมอ เป็นเพียงการเปิดทางให้มวลชนในเครือข่ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าร่วมอย่างเป็นเอกเทศ แต่ไม่ได้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ

น่าศึกษา น่าสำรวจ


ปัจจัย 1 ที่ทำให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่เข้าร่วมกับองค์การพิทักษ์สยามในทางการเมืองและในทางการจัดตั้ง

เป็นปัจจัยจากพรรคประชาธิปัตย์

เพราะ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิป ไตยได้บทสรุปจากการต่อสู้ก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และหลังการเลือกตั้งทั่วไปเดือนธันวาคม 2550 มาเป็นอย่างดี

การเคลื่อนไหวเมื่อปี 2549 ลงเอยด้วยการรัฐประหาร

หลังการรัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็อำลาตำแหน่งองคมนตรีเข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

การเคลื่อนไหวระหว่างเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2551 ยิ่งมีความเด่นชัด

เป็นความเด่นชัดที่กลุ่มรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 อุ้ม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

นี่ย่อมเท่ากับ "ตีงูให้กากิน"

การ เคลื่อนไหวอันมีจุดเริ่มที่สนามม้านางเลิ้งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ก็แทบไม่แตกต่างไปจากที่เคยมี "มือที่มองไม่เห็น" แตะสัมผัสก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 แตะสัมผัสก่อนใช้ขบวนการตุลาการภิวัฒน์จัดการพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือน ธันวาคม 2551

ไผเป็นไผ พันธมิตรรู้

กระนั้น อีกปัจจัย 1 ซึ่งบรรดาเกจิทางการเมืองภายในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอ่านได้ทะลุปรุโปร่ง

นั่นก็คือ สถานการณ์ยังไม่สุกงอมอย่างเพียงพอ

สถานะของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความแตกต่างไปจากสถานะของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

เป็นเพราะจุดแข็งอันเนื่องมาจากท่วงทำนอง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เป็น เพราะเวลา 1 ปีเศษของรัฐบาลแม้จะพะว้าพะวังกับการพยายามเตะสกัดขาโดยพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นเวลา 1 ปีเศษที่ขับเคลื่อนนโยบายอันเคยประกาศไว้อย่างแข็งขัน และรุกไล่กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในสถานะตั้งรับ

จุดแข็งเป็นอย่างมากของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ การได้รับการสนับสนุนจากสากล จากนานาอารยประเทศ

จุดแข็งเป็นอย่างมากของรัฐบาล น.ส.

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ ความชอบธรรม

เป็น ความชอบธรรมที่ได้รับเลือกจากผู้ลงคะแนนให้มากเกือบ 15 ล้านคนทั่วประเทศ เป็นความชอบธรรมที่มวลชนคนเสื้อแดงอันเป็นกลุ่มก้อนที่มีพลังยิ่งจากการ ต่อสู้หลั่งเลือดเพื่อประชาธิปไตยเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 เป็นผนังทองแดง กำแพงเหล็กให้

ป้อมค่ายนี้จึงไม่แตกอย่างง่ายดาย


ถามว่าสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พฤศจิกายน จะดำเนินไปและมีบทสรุปอย่างไร

ตอบ ว่า จะมีมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนเกิน 50,000 แต่ไม่น่าจะถึง 100,000 และจะยืดเยื้อไม่เพียงแต่ตลอดญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากยังมีความต่อเนื่องไปอีกในลักษณะพลังงานแฝง

แต่ยังไม่สามารถโค่น น.ส.ยิ่งลักษณ์

ชินวัตร ได้ภายในพริบตาพลัน

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1353124598&grpid=01&catid=&subcatid=

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น