ประธานศาลขว้างงู
ใบตองแห้ง Baitonghaeng
ใช้เวลา 4 วันกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดเทปคำต่อคำ วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีข้อกังขาคำพูดของท่านต่อคดียุบพรรค ตามที่
“มติชน” ถอดเทปว่า หากขณะนั้นบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
รัฐบาลฝ่ายค้านจับมือกัน
เชื่อว่าตุลาการเสียงข้างมากคงใช้ดุลยพินิจไม่สั่งยุบพรรค
ในกรณีที่หนังสือพิมพ์มติชน วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2556
ได้สรุปคำต่อคำ ของประธานศาลรัฐธรรมนูญจากการสัมมนาดังกล่าวนั้น
การสรุปดังกล่าวไม่ครบถ้วนทำให้ประชาชนเข้าใจในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ในคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคมัชฌิมาธิปไตย และพรรคชาติไทย จำนวน 3 พรรค
ไม่ถูกต้อง
การแสดงความเห็นของประธานศาลรัฐธรรมนูญในที่ประชุมสัมมนามีดังนี้
“ตอนยุบพรรคนะฮะ จริงๆ แล้วผมเคยพูดกับผู้สื่อข่าวไปว่า
การตัดสินว่าทุจริตเลือกตั้ง องค์กรอื่นมีอำนาจตัดสิทธิ์
ถ้าให้ใบแดงก่อนรับรองผล กฎหมายเขียนว่า คำวินิจฉัยของ กกต.เป็นที่สุด
เป็นที่สุดคือไม่ต้องเถียง เมื่อศาลฎีกาแจกใบแดงคุณยงยุทธ ติยะไพรัช
ใช่ไหมฮะ คำพิพากษาของศาลฎีกาก็เป็นที่สุดเหมือนกัน
จะมาอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ เมื่อยุติว่าโกงเลือกตั้ง
มันก็เจอรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 ซึ่งจะตีหรือไม่ตีก็ตาม ก็อยู่ตรงนั้น
ก็เพียงแต่ส่งมาให้พวกเราใช้ดุลยพินิจเท่านั้น
พูดตรง ๆ ถ้าความเห็นของผม รับปุ๊บ รับคำชี้แจงปุ๊บก็ตัดสินได้เลย
ไม่ต้องมานั่งตรวจพยาน ไม่ต้องมานั่งทำอะไรกันหรอก ใช่ไหมฮะ จริง ๆ แล้ว
ผมเสียดายด้วยซ้ำ ควรจะตัดสินให้เร็วกว่านั้น
มันไม่ได้มีประเด็นเรื่องบุกสนามบง สนามบิน
แล้วถามว่าใช้ดุลยพินิจเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ ไม่ยุบได้ไหม
ได้ ถ้ามีพฤติการณ์พิเศษ ผมเคยมานั่งสมมติกัน ตอนหลังนะ กับพรรคพวก
จะเปิดเผยกันเลยดีไหม ว่า ถ้าพฤติกรรมมีการปรองดองกันในระหว่างฝ่ายรัฐบาล
พรรคพลังประชาชนกับฝ่ายค้าน โอเคนะ จะประนีประนอมกันนะ เออ ตอนนั้น
มีม็อบพันธมิตร ม็อบเสื้อเหลืองบุกทำเนียบ มีม็อบเสื้อแดงบุกบ้านป๋านะฮะ
ทำลายทรัพย์สิน ห้องแถว แถวนั้น เราจะปรองดองกันอย่างไร
จับมือกันได้ไหมระหว่างนั้น ถ้าบ้านเมืองมันไปได้ตอนนั้น ผมคิดว่า
เสียงส่วนใหญ่ขององค์คณะเราจะออกไปในทางว่าแม้จะผิด
แต่เมื่อบ้านเมืองไปได้เห็นสมควรใช้ดุลยพินิจไปในทางไม่ยุบทั้งสามพรรค
มันก็เป็นไปได้ ใช่ไหม แต่ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมันก็ต้องเดินไปตามนั้น
ก็ดำเนินไปตามนั้นแหละ นี่ นี่คือข้อเท็จจริง ไม่ใช่เล่นตามกระแส”
การสรุปคำต่อคำของหนังสือพิมพ์มติชนไม่ครบถ้วน
ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อศาลรัฐธรรมนูญ
และที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญแสดงทัศนะในการสัมมนา
และหนังสือพิมพ์มติชนนำไปสรุปเป็นข่าวเฉพาะข้อความบางตอนที่เป็นเพียงการ
สมมติขึ้นภายหลังจากที่มีคำวินิจฉัยแล้วเท่านั้น
มิใช่เป็นการพิจารณาของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
จึงชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
และหากผู้ใดกระทำการอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ศาลรัฐธรรมนูญ
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะได้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ้าว ตอนท้ายมีขู่อีกต่างหาก นี่จะปิดปากห้ามวิพากษ์วิจารณ์กันหรือครับ
ขอโทษที ทำอะไรผมไม่ได้หรอก เพราะที่ผมวิจารณ์ทั้งในข้อเขียน คำพูด ผมอ้าง
“มติชน” ตลอด บอกอยู่แล้วว่า “ถ้า” เป็นไปตามที่มติชนถอดเทป ......
ฉะนั้น ถ้าท่านคิดว่าเสียหาย มติชนก็รับไป (ฮา)
แต่ท่านก็เห็นมติชนตั้งแต่วันอาทิตย์แล้ว ทำไมไม่รีบออกมาแก้
รอให้คนเขาวิพากษ์วิจารณ์ใน 2 วันถัดมา ท่านจึงแก้
(อ่านต่อ)
http://www.voicetv.co.th/blog/1487.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น