ถ้าต้องการ “ปฏิรูปประเทศ” จริง ต้องไม่ “บีบบังคับ”
โดย นักปรัชญาชายขอบ
การเสนอ "ปฏิรูปประเทศ" แบบที่ทำกันอยู่นี้ไม่มี "ความชอบธรรม" เพราะ...
1. ไม่มีพิมพ์เขียวที่ชัดเจน มีเพียงข้อเสนอที่ไม่แน่ชัดว่าเป็นเอกภาพหรือไม่ ระหว่าง ปชป.และ พธม.เดิม ที่ว่าให้ รบ.ยิ่งลักษณ์ยุบสภา แล้วถวายคืนพระราชอำนาจ งดการเลือกตั้งสัก 2-3 ปี มีนายกพระราชทานและจัดการให้ประชาชนปฏิรูปประเทศ แต่ก็มีข้อเสนออีก เช่นว่า ล้างระบอบทักษิณ ให้ตระกูลชินวัตรออกไปจากการเมือง หรือนอกประเทศทั้งหมด ต้องปกครองด้วย “ระบอบกษัตริย์สมบูรณ์แบบ” จึงไม่รู้ว่าจะเอาอย่างไรกันแน่
2. ใช้วิธีบีบบังคับให้เสียงข้างมากยอมรับ ด้วยการก่อม็อบยึดสถานที่ราชการ
3. กลุ่มที่เสนอเป็น "เสียงข้างน้อยกลุ่มเดิม" ที่อ้างสถาบันกษัตริย์ต่อสู้ทางการเมือง แพ้การเลือกตั้ง เรียกร้องให้ทหารทำ รปห. และเรียกร้องให้เสียงข้างมากยอมรับนิติรัฐ นิติธรรม และองค์กรที่มาจาก รปห.
ทางออกที่ควรจะเป็น ต้องเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศเป็น “พิมพ์เขียว” ให้ประชาชนลงประชามติ อาจจะมีมากกว่า 1 พิมพ์เขียว เช่น
กลุ่มเสียงข้างน้อย (พธม., ปชป. และ ฯลฯ) เสนอไปเลยว่าจะถวายคืนพระราชอำนาจ ขอนายกพระราชทาน การเลือกตั้งแบบ 70-30 การปกครองระบบกษัตริย์สมบูรณ์แบบ ฯลฯ
ส่วนอีกฝ่าย (หรือกลุ่มอื่นๆ) เสนอไปเลยว่า ต้องการปฏิรูปประเทศให้ประชาชนมีสิทธิตรวจสอบสถาบันกษัตริย์และนักการเมือง ได้ในมาตรฐานเดียวกัน, เป็นรัฐสวัสดิการ หรือ ฯลฯ
แล้วให้ประชาชนทั้งประเทศลงประชามติว่าจะรับพิมพ์เขียวใด
ไม่ใช่ก่อม็อบบีบบังคับให้เสียงข้างมากยอมรับการปฏิรูปประเทศตามความต้องการและเงื่อนไขของเสียงส่วนน้อยดังที่กำลังทำอยู่ขณะนี้
วิธีเสนอพิมพ์เขียวให้ประชาชนลงประชามติเป็นวิถีทางประชาธิปไตย แฟร์แก่ทุกฝ่าย ถ้าใช้วิถีทางนี้ไปสู่การปฏิรูปประเทศ ย่อมได้ชื่อว่าเราเริ่มปฏิรูปจริงๆ แล้วคือ ปฏิรูปตั้งแต่ “วิธีการต่อสู้ทางการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย โดยใช้เหตุผลอย่างอารยะ และสันติจริง”
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2013/11/49985
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น