หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

คำตอบ คำถาม ทำไม ทหาร ยังไม่ทำ คำถาม คำตอบ

คำตอบ คำถาม ทำไม ทหาร ยังไม่ทำ คำถาม คำตอบ





ทำไม "ทหาร" จึงยังไม่ออกมา ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.จึงไม่ "เทก แอ๊กชั่น" 

"เทก แอ๊กชั่น" ด้วยการ "เอ็กเซอร์ไซส์"

ทั้งๆ ที่กระบวนการทุกระบวนการของ กปปส. อันนำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คือ ความต้องการ "ปูทาง" และสร้าง "เงื่อนไข"

ให้นำไปสู่การ แอน แอ่น แอ๊น

กล่าวสำหรับ "คณะรัฐบุคคล" ก็สำแดงออกตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2557 แล้วว่า ปัญหาในทางการเมืองจะมีทางออกอย่างไร

นั่นก็คือ "ทหาร" ต้อง "ปฏิบัติการ"

ไม่เพียงแต่จะมี พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีต ผบ.ทหารสูงสุด เชิญชวน หาก พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีต ผบ.ทอ. พล.ร.อ.วิเชษฐ์ การุณยวณิช อดีต ผบ.ทร.ก็นั่งอยู่ด้วย

การออกมา "เรียกร้อง" โดยฝากผ่าน พล.อ.เปรม ติณส

เป้าหมายอย่างแท้จริง 1 คือการตอกย้ำเจตจำนงเดิมเมื่อเดือนมกราคม ขณะเดียวกัน 1 คือ การยืนยันว่ามีแต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เท่านั้น ผบ.เหล่าทัพจึงเกรงใจ

เกรงใจกระทั่งยินยอม แอน แอ่น แอ๊น



กล่าวสำหรับตัวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หากนำไปเปรียบเทียบกับการออกโรงในเดือนมิถุนายน 2549 ถือว่าไปไกลยิ่งกว่า

ตัวอย่าง 1 คือ การชี้ชวนผ่านวาทกรรม พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา


เป็นวาทกรรม ณ ค่ายกฤษณ์สีวะรา จังหวัดทหารบกสกลนคร อันเน้นอย่างหนักแน่นและจริงจังว่า 

"ทหารคือที่พึ่งสุดท้ายของประชาชา

ตัวอย่าง 1 คือ ลักษณะแห่งการโอ้โลม ปฏิโลม ระหว่าง ผบ.เหล่าทัพไปร่วมในการรดน้ำดำหัวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ 

"ผบ.เหล่าทัพกำลังมีงานหนัก งานยาก ที่จะต้องทำให้สำเร็จ"

หากมองว่า การเข้าไปของ ผบ.เหล่าทัพเป็นการเข้าไปคารวะ รดน้ำดำหัว เพื่อขอพรจากผู้อาวุโสในแผ่นดินตามประเพณีไทย


นี่ย่อมเป็น "พร" อันมาจาก "ผู้ใหญ่"

เช่นนี้เอง คณะ "รัฐบุคคล" อันมี พล.อ.สายหยุด เกิดผล เป็นผู้นำประสานเข้ากับนักรัฐศาสตร์ที่คร่ำหวอดในการเมืองไทยระดับ นายปราโมทย์ นาครทรรพ จึงรีบช่วงชิงโอกาสให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เล่นบท "คนกลาง" 

คนกลางระหว่าง "ทหาร" กับ "ศาล

แม้เป้าหมายของ "คณะรัฐบุคคล" คือ เรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สำแดงกำลังภายในไปยัง "ทหาร" กับ "ศาล"


แต่เรื่องนี้ก็ "ล่อแหลม" และ "หวาดเสียว"

ล่อแหลมที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จะออกมายอมรับโดยตรง หวาดเสียวที่จะทำให้ "สถาบัน" สำคัญของสังคมไทยจะถูกแสงแห่งสปอตไลต์ฉายจับ

อย่าคิดว่า "คณะรัฐบุคคล" ตั้งความหวังเพียงคณะเดียว

เพราะ ในความเป็นจริง นับแต่พรรคประชาธิปัตย์แสดงตัวในเดือนพฤศจิกายน 2556 กระทั่งยกระดับพัฒนาขึ้นเป็น "กปปส." ในเดือนมกราคม 2557 เป็นต้นมา

"มวลมหาประชาชน" ก็ตั้ง "เป้าหมาย" อย่างนี้

1 ตั้งเป้าหมายให้ "องค์กรอิสระ" แสดงบทบาทเพื่อนำไปสู่ "สุญญากาศ" ทางการเมือง 1 ตั้งเป้าหมายให้ "กองทัพ" เลือกข้างทางการเมือง ความหมายในที่นี้ก็อีหรอบเดียวกับ "องค์กรอิสระ" คือเลือกอยู่ข้างเดียวกับ "มวลมหาประชาชน"

ถามว่าแล้วบทบาทของ "องค์กรอิสระ" และ "กองทัพ" เป็นอย่างไร

คำ ตอบเห็นได้จาก 1 ความเชื่อมั่นของ กปปส.ที่ว่าทุกอย่างจบลงภายในเดือนเมษายน 1 ความเชื่อมั่นของ "คณะรัฐบุคคล" ที่จะพึ่งบริการของ "รัฐบุรุษ"

บทบาทของ "กองทัพ" จึงอาจเป็น "คำตอบ" สุดท้าย

การเมืองไทยนับแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา จึงไม่มีอะไรเป็น "ความลี้ลับ"

ใคร สนับสนุนให้เกิดรัฐประหาร ทุกคนรับรู้กันหมด ยิ่งการขับเคลื่อนของ กปปส.มีใคร สำนองเงินทุน สำนองบุคลากร และช่วยในการ "ปูทาง" และสร้าง "เงื่อนไข" ล้วนรู้กันทั่ว

รอแต่ว่า "เมื่อเอยก็เมื่อนั้น" รอแต่ว่าจะ "แอนแอ่นแอ๊น" เท่านั้น

(ที่มา) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1397808773&grpid=&catid=12&subcatid=1200 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น