‘ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์’ชี้20ปีพฤษภาทมิฬ ประชาธิปไตยขยับ-ปัญหายังวนกับบุคคล จะมีรธน.ใหม่ต้องไปแก้ปัญหาที่มีก่อนปี49
คนเดือนพฤษภา 35
ชี้ความขัดแย้งทางการเมืองทุกครั้ง เพราะรัฐผูกขาดอำนาจมากเกินไป
สังคมไทยยังหาสูตรแบ่งปันอำนาจไม่ลงตัว ต้นตอรัฐประหาร
ส่วนประชาชนยังไม่มีพลังเพียงพอในข้อตกลงทางอำนาจระหว่างชนชั้นนำและนายทุน
ประชาธิปไตยไทยถือว่าก้าวหน้ามาเป็นระยะ
แต่ขบวนการเสื้อสีต้องปรับโจทย์ประชาธิปไตยใหม่และไปให้ไกลกว่าตัวบุคคล
ระบุทางออกระยะยาว
ต้องทำให้ระบบเลือกตั้งตอบสนองความต้องการประชาชนมากกว่านี้
จะแก้รัฐธรรมนูญต้องย้อนกลับไปเริ่มก่อนปี 2549
จากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516
หมุดหมายสำคัญทางการเมืองไทยที่อาจเรียกได้ว่า
เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโฉมหน้าการเมืองไทยจากเผด็จการทหารเปลี่ยนผ่านสู่
ประชาธิปไตยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เกือบ 20
ปีต่อมาสังคมไทยเผชิญความรุนแรงทางการเมืองอีกครั้งในเหตุการณ์พฤษภาคม 2535
โดยธงของการชุมนุมคือเรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์ 20 ปีก่อน
เขาคือหนึ่งในนักศึกษาและนักกิจกรรม ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
ศูนย์ข่าว TCIJ ขอให้วิเคราะห์เส้นทางประชาธิปไตยไทยจากเหตุการณ์ 14 ตุลา
16 ถึงเหตุการณ์ในยุคของเขา จนถึงปรากฏการณ์เหลือง-แดง
ที่สร้างความขัดแย้งทางความคิดและอุดมการณ์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จากสายตาของศิโรตม์ ความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยทุกครั้ง
เกิดจากรัฐที่ผูกขาดอำนาจมากเกินไป และก็ดูจะเป็นเช่นนั้นมาทุกยุคทุกสมัย
อย่างไรก็ตาม แม้การพยายามหาสูตรแบ่งปันอำนาจทางการเมืองแต่ละครั้ง
จะตามมาด้วยการก่อรัฐประหาร แต่เขาคิดว่าประชาธิปไตยไทยก้าวหน้ามาเป็นระยะๆ
เพียงแต่ ณ ปัจจุบัน โจทย์ที่ขบวนการเสื้อสีแต่ละสีกำลังเรียกร้อง
อาจยังไม่ใช่โจทย์ที่จะนำไปสู่คำตอบการปฏิรูปสังคมดังที่หวัง
ร่วมตรวจสอบเส้นทางประชาธิปไตยไทยในวาระครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 สังคมไทยได้อะไรมา และเสียอะไรไป
(อ่านต่อ)
http://www.tcijthai.com/tcijthai/view.php?ids=591
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น