กล้าดี...ก็ลองดู??!!??
แก้วสรร อติโพธิ
ถาม ทราบมาว่ากำลังมีการพูดคุยเตรียมงานกระบวนการถอดถอน 3 ป.คือ นายกฯ ปู, รองฯ เป็ดเหลิม และรัฐมนตรีประชา จากกรณีฎีกาแดง ที่ขอพระราชทานอภัยโทษให้คุณทักษิณ ใช่หรือไม่
ตอบ ถ้า 3 ป. นี้กล้านำฎีกาแดงขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยถวายคำแนะนำให้พระราชทานอภัยโทษคุณทักษิณ ก็ต้องเจอคำร้องของประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 เข้าชื่อกันสองหมื่นคนขึ้นไป ขอให้วุฒิสภาถอดถอนจากตำแหน่ง ฐาน “มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือ กฎหมาย” อย่างแน่นอน
ถาม เอาสักสามล้านชื่อเท่าคนเสื้อแดงในฎีกาแดงจะได้ไหม
ตอบ ได้สองหมื่นก็ยื่นทันที อย่าไปเคลื่อนไหวล่าชื่ออะไรให้มาก ต้องเข้าใจว่านี่เป็นกระบวนการทางกฎหมายไม่ใช่การเมือง มีไว้เพื่อเป็นทางออกของสังคม จะได้ไม่ต้องใช้การเมืองข้างถนนจนบ้านเมืองระส่ำระสาย
ถาม เอาฐานทางกฎหมายอะไรไปกล่าวหาว่า 3 ป.ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย ก็รองฯ เป็ดเขาประกาศแล้วนี่ครับว่า เรื่องการอภัยโทษนี่ คนหนีคุกก็อภัยได้ ไม่เห็นมีกฎหมายห้ามไว้ที่ตรงไหน ใครหน้าไหนก็อย่ามาขวางมิให้ฎีกาแดงนี้ไปถึงในหลวงได้ อย่าเป็นอันขาด
ตอบ ถ้าเป็นแดนเอกชนคือเรื่องส่วนบุคคล เช่น รองฯ เป็ดจะทำสัญญาเล่นแชร์เปียหวยกับพรรคพวกก็ย่อมทำได้ กฎหมายก็รับบังคับให้ตามเจตนาทั้งๆ ที่ในประมวลกฎหมายแพ่งฯ ส่วนที่ว่าด้วยเอกเทศสัญญานั้น ไม่มีบทบัญญัติรองรับสัญญาเล่นแชร์อยู่เลยก็ตาม เหตุทั้งนี้ก็เพราะแดนเอกชนนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวเป็นเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ถ้ากฎหมายไม่ห้าม แต่ถ้ารองฯ เป็ด ออกจากบ้านมานั่งที่ทำเนียบฯ สวมอำนาจหน้าที่สาธารณะแล้ว ตรงนี้เป็นแดนมหาชน ที่กฎหมายมหาชนวางฐานคิดไว้ไม่เหมือนกฎหมายเอกชน ถ้า รองฯ เป็ดแตกฉานกฎหมายจริงดั่งอ้างก็ต้องรู้พื้นฐานนี้
ถาม พื้นฐานอะไร
ตอบ กฎหมายมหาชนยึดถือนิติรัฐ ไม่ใช่นิติลัด กำหนดให้ชาวบ้านเคารพกฎหมายไม่ใช่เคารพคนที่ใช้กฎหมาย ถ้ารองฯ เป็ดสั่งการใดโดยนอกเหนือกฎหมาย ชาวบ้านก็โต้แย้งปฏิเสธความผูกพันได้เสมอ รองฯ เป็ดจะอ้างว่าตัวเองเป็นดาวฤกษ์มีแสงมีอำนาจอยู่ในตัว ถ้ากฎหมายไม่ห้ามไว้ รองฯ เป็ดย่อมทำได้ทุกอย่าง อย่างนี้ไม่ได้
ถาม รองฯ เป็ดเขาบอกว่า เรื่องอภัยโทษนี่เป็นพระราชอำนาจแล้วแต่จะทรงพระกรุณาหรือไม่ ไม่ใช่หรือ
ตอบ หลัก The King can do no wrong นี่นำมาใช้นำมาเข้าใจกันลวกๆผิดๆ อยู่เสมอ ในหลวงเองท่านก็เคยทรงเปรยๆ ตำหนิมาครั้งหนึ่งแล้ว รองฯ เป็ดควรต้องเข้าใจระบบผู้รับสนองพระบรมราชโองการให้ดีว่า อำนาจอภัยโทษนี้ต้องมีฝ่ายบริหารคือ นายกฯ รัฐมนตรี เป็นผู้นำฎีกาและข้อมูลพร้อมความเห็นของรัฐมนตรียุติธรรม ขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงวินิจฉัย เมื่อทรงวินิจฉัยอย่างไร นายกรัฐมนตรีก็จะรับสนองพระบรมราชโองการอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งขั้นตอนในชั้นฝ่ายบริหารนี้มันมีกฎหมาย มีระเบียบ และธรรมเนียมวางเป็นแนวเป็นทางไว้ชัดเจนอยู่แล้ว
โดยระบบรับสนองพระบรมราชโองการเช่นที่กล่าวมา รัฐมนตรี 3 ป. ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องก่อน จะรับแล้วโยนฎีกาอะไรให้ในหลวงง่ายๆ โดยบอกว่า“เป็นพระราชอำนาจ แล้วแต่จะทรงพระกรุณา” ไม่ได้การจัดการกับฎีกาแดงให้ถูกต้องเสียก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าถวายเช่น นี้ จึงเป็นการปฏิบัติราชการชนิดหนึ่งที่ต้องทำ และต้องทำให้ถูกต้องตามครรลองที่มีอยู่แล้ว ซึ่งถ้า 3 ป.นี้จงใจฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อใดก็ถูกถอดถอนได้
ถาม “การจัดการกับฎีกาให้ถูกต้อง” นี้ หมายถึงการจัดการใดบ้าง
ตอบ ถ้าดูทั้งกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา,กฎหมายราชทัณฑ์,ระเบียบและแนวปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์และเรือนจำแล้ว ฎีกาแดงนี้มีปัญหาดังนี้
1.เจ้าของฎีกาไม่ถูกต้อง
2.ไม่มีกฎเกณฑ์ของราชทัณฑ์รองรับการยกโทษให้คนหนีคดี
3.ขัดต่อหลักการปกครองโดยกฎหมาย
ถาม คนเสื้อแดงตั้งสามล้านคนเป็นเจ้าของฎีกาไม่ได้หรือ
ตอบ การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการสื่อสารตรงระหว่างผู้ต้องโทษหรือคนในครอบครัว กับพระมหากรุณาธิคุณ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก ซึ่งฎีกาแดงนี้กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบแล้ว พบว่าชื่อ 3 ล้านชื่อ มีคนจริงๆ อยู่ 2 ล้านคน
เป็น ”ชินวัตร” 3 คน มีที่นับเป็นคนในครอบครัวได้คนเดียวคือ น้องชายคุณทักษิณ ชื่อ พายัพ ชินวัตร ซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่มายืนยันฎีกาตามที่ทางกรมเขาเรียกไป เรื่องถึงได้ช้าอยู่อย่างนี้ ถ้าไม่แก้ไขให้ถูกต้องตรงนี้ก็เดินเรื่องต่อไปไม่ได้
ถาม เห็นมีข่าวว่าคุณพายัพเขาพร้อมจะมายืนยันแล้วนะครับ
ตอบ ถ้ามาจริงๆ ลูกบอลก็จะไหลมาเข้าเท้ากรมราชทัณฑ์ว่า ต้องรวบรวมข้อมูลและทำความเห็นเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นชั้น แรกก่อน ซึ่งตรงนี้ก็จะพบว่า หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติทั้งปวงที่มีอยู่ ล้วนวางไว้สำหรับกรณีผู้ต้องคำพิพากษากำลังถูกบังคับโทษอยู่ทั้งสิ้น แล้วจึงมีข้อมูลในระหว่างถูกบังคับโทษมาอ้างอิงขอพระราชทานอภัยโทษทั้งสิ้น (ยกเว้นกรณีรอการประหารชีวิต ที่ขอพระราชทานอภัยโทษได้โดยพลันใน 60 วัน)
ถาม แล้วกรณีฎีกาแดงนี้ กรมราชทัณฑ์จะทำอย่างไร
ตอบ ก็ต้องรายงานตามตรงว่าไม่มีกฎหมายและระเบียบราชทัณฑ์รองรับ ข้างรัฐมนตรียุติธรรมและนายกรัฐมนตรีก็ต้องสั่งระงับฎีกานั้นไป ทราบว่าที่ผ่านมาก็ทำกันเช่นนี้หลายครั้งแล้ว กรณีฎีกาแดงนี้ถ้าไม่สองมาตรฐานก็ต้องสั่งระงับไปเช่นกัน และด้วยเหตุเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อระงับแล้ว นายกฯ ก็ควรถวายรายงานให้ทรงทราบด้วยอีกทางหนึ่ง
ถาม พวกเสื้อแดงจะโวยวายได้ไหมว่าฝ่ายบริหารไม่มีอำนาจระงับฎีกาของตน
ตอบ หน้าที่ของฝ่ายบริหารคือต้องตรวจทานฎีกาให้ถูกต้องตรงตามครรลองของกระบวนการ ยุติธรรมที่วางไว้ชัดเจนแล้ว ซึ่งเมื่อไม่มีกฎเกณฑ์รองรับเลยก็เสนอไปไม่ได้ คุณจะเอาของเถื่อนไปถวายให้ทรงใช้พระราชอำนาจอย่างนั้นหรือ
ถาม ก็รองฯ เป็ดเขายืนยันนอนยันว่าเป็นพระราชอำนาจ เราจะไประงับฎีกาไม่ได้
ตอบ นั่นเป็นชั้นทรงพระราชวินิจฉัย ที่แล้วแต่จะทรงพระกรุณา แต่ในชั้นบริหารมันต้องกลั่นกรองให้ถูกต้องเสียก่อน เพราะคุณคือผู้รับผิดชอบในฐานะผู้รับสนองพระบรมราชโองการ แล้วที่พร่ำก้าบๆ อ้างว่ากฎหมายไม่ห้ามๆๆ..อยู่นั่นน่ะ รองฯ เป็ดไม่เห็นหรือว่า คำขอตามฎีกานี้มันขัดต่อหลักการปกครองโดยกฎหมายของระบบนิติรัฐอย่างชัดเจน มาก..มันยิ่งกว่า “ไม่ห้าม” เสียอีกนะคุณ
ถาม ขัดอย่างไร
ตอบ การอภัยโทษเป็นเรื่องต้องโทษแล้วสำนึกผิดกลับตัวกลับใจ มีพัฒนาการที่ดีในคุกหรือมีเหตุเฉพาะตัวอื่นๆ เช่น เจ็บป่วยใกล้ตาย ทั้งหมดนี้เป็นเหตุเฉพาะตัวที่เกิดขึ้นหลังพิพากษา จึงขออภัยโทษเป็นการเฉพาะรายได้ แต่การต้องโทษแล้วหนีคดีนั้น พฤติการณ์ในคดีศาลตัดสินไปแล้วว่าผิด เหตุลดหย่อนเฉพาะตัวถ้ามี ศาลก็ดูไปแล้วว่ามีหรือไม่ ขั้นต่อไปก็ต้องเข้าคุกก่อน ถ้าเรายอมให้พ้นโทษได้โดยไม่ต้องโทษใดเลย อย่างนี้ไม่ใช่การอภัยโทษแล้วล่ะครับ มันเท่ากับเรายอมให้ 3 ป.ใช้อำนาจบริหารมาทำลายผลคำพิพากษาอันเป็นที่สุดเลยนั่นเอง
ถาม แล้วมันเสียหายอย่างไร
ตอบ มันไม่เสมอภาคชัดๆ คนอื่นศาลพิพากษาว่าทำผิดก็ติดคุก แต่คนนี้ไม่ต้องไม่ต้องก็เพราะอำนาจตุลาการหมดความเด็ดขาด ตัดสินเด็ดขาดแล้วก็ไม่ยุติ ดันมีอำนาจบริหารโผล่มาทำลายผลคำพิพากษาได้เสียอีก
หลักความเสมอภาคภายใต้กฎหมายและหลักแบ่งแยกอำนาจนี้ รัฐธรรมนูญไทยอาราธนามาเป็นเสาเอกของระบบนิติรัฐไทยเนิ่นนานแล้ว มีบทบัญญัติปรากฏให้เห็นอยู่หลายมาตรา ถ้า 3 ป. ขืนเดินหน้าถวายฎีกาพร้อมความเห็นให้คุณทักษิณพ้นคำพิพากษาเมื่อใด ก็โดนข้อหาจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแน่นอน
ถาม เขาทำหน้าตายส่งฎีกาไปโดยไม่ถวายความเห็นประกอบได้ไหม
ตอบ ก็เพิ่มอีกข้อหาหนึ่ง คือจงใจละเว้นไม่ทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด โยนความรับผิดชอบให้พระเจ้าแผ่นดินโดยมิบังควร
กล้าดี...ก็ลองดู
ถาม ทราบมาว่ากำลังมีการพูดคุยเตรียมงานกระบวนการถอดถอน 3 ป.คือ นายกฯ ปู, รองฯ เป็ดเหลิม และรัฐมนตรีประชา จากกรณีฎีกาแดง ที่ขอพระราชทานอภัยโทษให้คุณทักษิณ ใช่หรือไม่
ตอบ ถ้า 3 ป. นี้กล้านำฎีกาแดงขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยถวายคำแนะนำให้พระราชทานอภัยโทษคุณทักษิณ ก็ต้องเจอคำร้องของประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 เข้าชื่อกันสองหมื่นคนขึ้นไป ขอให้วุฒิสภาถอดถอนจากตำแหน่ง ฐาน “มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือ กฎหมาย” อย่างแน่นอน
ถาม เอาสักสามล้านชื่อเท่าคนเสื้อแดงในฎีกาแดงจะได้ไหม
ตอบ ได้สองหมื่นก็ยื่นทันที อย่าไปเคลื่อนไหวล่าชื่ออะไรให้มาก ต้องเข้าใจว่านี่เป็นกระบวนการทางกฎหมายไม่ใช่การเมือง มีไว้เพื่อเป็นทางออกของสังคม จะได้ไม่ต้องใช้การเมืองข้างถนนจนบ้านเมืองระส่ำระสาย
ถาม เอาฐานทางกฎหมายอะไรไปกล่าวหาว่า 3 ป.ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อกฎหมาย ก็รองฯ เป็ดเขาประกาศแล้วนี่ครับว่า เรื่องการอภัยโทษนี่ คนหนีคุกก็อภัยได้ ไม่เห็นมีกฎหมายห้ามไว้ที่ตรงไหน ใครหน้าไหนก็อย่ามาขวางมิให้ฎีกาแดงนี้ไปถึงในหลวงได้ อย่าเป็นอันขาด
ตอบ ถ้าเป็นแดนเอกชนคือเรื่องส่วนบุคคล เช่น รองฯ เป็ดจะทำสัญญาเล่นแชร์เปียหวยกับพรรคพวกก็ย่อมทำได้ กฎหมายก็รับบังคับให้ตามเจตนาทั้งๆ ที่ในประมวลกฎหมายแพ่งฯ ส่วนที่ว่าด้วยเอกเทศสัญญานั้น ไม่มีบทบัญญัติรองรับสัญญาเล่นแชร์อยู่เลยก็ตาม เหตุทั้งนี้ก็เพราะแดนเอกชนนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวเป็นเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ถ้ากฎหมายไม่ห้าม แต่ถ้ารองฯ เป็ด ออกจากบ้านมานั่งที่ทำเนียบฯ สวมอำนาจหน้าที่สาธารณะแล้ว ตรงนี้เป็นแดนมหาชน ที่กฎหมายมหาชนวางฐานคิดไว้ไม่เหมือนกฎหมายเอกชน ถ้า รองฯ เป็ดแตกฉานกฎหมายจริงดั่งอ้างก็ต้องรู้พื้นฐานนี้
ถาม พื้นฐานอะไร
ตอบ กฎหมายมหาชนยึดถือนิติรัฐ ไม่ใช่นิติลัด กำหนดให้ชาวบ้านเคารพกฎหมายไม่ใช่เคารพคนที่ใช้กฎหมาย ถ้ารองฯ เป็ดสั่งการใดโดยนอกเหนือกฎหมาย ชาวบ้านก็โต้แย้งปฏิเสธความผูกพันได้เสมอ รองฯ เป็ดจะอ้างว่าตัวเองเป็นดาวฤกษ์มีแสงมีอำนาจอยู่ในตัว ถ้ากฎหมายไม่ห้ามไว้ รองฯ เป็ดย่อมทำได้ทุกอย่าง อย่างนี้ไม่ได้
ถาม รองฯ เป็ดเขาบอกว่า เรื่องอภัยโทษนี่เป็นพระราชอำนาจแล้วแต่จะทรงพระกรุณาหรือไม่ ไม่ใช่หรือ
ตอบ หลัก The King can do no wrong นี่นำมาใช้นำมาเข้าใจกันลวกๆผิดๆ อยู่เสมอ ในหลวงเองท่านก็เคยทรงเปรยๆ ตำหนิมาครั้งหนึ่งแล้ว รองฯ เป็ดควรต้องเข้าใจระบบผู้รับสนองพระบรมราชโองการให้ดีว่า อำนาจอภัยโทษนี้ต้องมีฝ่ายบริหารคือ นายกฯ รัฐมนตรี เป็นผู้นำฎีกาและข้อมูลพร้อมความเห็นของรัฐมนตรียุติธรรม ขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงวินิจฉัย เมื่อทรงวินิจฉัยอย่างไร นายกรัฐมนตรีก็จะรับสนองพระบรมราชโองการอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งขั้นตอนในชั้นฝ่ายบริหารนี้มันมีกฎหมาย มีระเบียบ และธรรมเนียมวางเป็นแนวเป็นทางไว้ชัดเจนอยู่แล้ว
โดยระบบรับสนองพระบรมราชโองการเช่นที่กล่าวมา รัฐมนตรี 3 ป. ต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องก่อน จะรับแล้วโยนฎีกาอะไรให้ในหลวงง่ายๆ โดยบอกว่า“เป็นพระราชอำนาจ แล้วแต่จะทรงพระกรุณา” ไม่ได้การจัดการกับฎีกาแดงให้ถูกต้องเสียก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าถวายเช่น นี้ จึงเป็นการปฏิบัติราชการชนิดหนึ่งที่ต้องทำ และต้องทำให้ถูกต้องตามครรลองที่มีอยู่แล้ว ซึ่งถ้า 3 ป.นี้จงใจฝ่าฝืนกฎหมายเมื่อใดก็ถูกถอดถอนได้
ถาม “การจัดการกับฎีกาให้ถูกต้อง” นี้ หมายถึงการจัดการใดบ้าง
ตอบ ถ้าดูทั้งกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา,กฎหมายราชทัณฑ์,ระเบียบและแนวปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์และเรือนจำแล้ว ฎีกาแดงนี้มีปัญหาดังนี้
1.เจ้าของฎีกาไม่ถูกต้อง
2.ไม่มีกฎเกณฑ์ของราชทัณฑ์รองรับการยกโทษให้คนหนีคดี
3.ขัดต่อหลักการปกครองโดยกฎหมาย
ถาม คนเสื้อแดงตั้งสามล้านคนเป็นเจ้าของฎีกาไม่ได้หรือ
ตอบ การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการสื่อสารตรงระหว่างผู้ต้องโทษหรือคนในครอบครัว กับพระมหากรุณาธิคุณ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก ซึ่งฎีกาแดงนี้กรมราชทัณฑ์ตรวจสอบแล้ว พบว่าชื่อ 3 ล้านชื่อ มีคนจริงๆ อยู่ 2 ล้านคน
เป็น ”ชินวัตร” 3 คน มีที่นับเป็นคนในครอบครัวได้คนเดียวคือ น้องชายคุณทักษิณ ชื่อ พายัพ ชินวัตร ซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่มายืนยันฎีกาตามที่ทางกรมเขาเรียกไป เรื่องถึงได้ช้าอยู่อย่างนี้ ถ้าไม่แก้ไขให้ถูกต้องตรงนี้ก็เดินเรื่องต่อไปไม่ได้
ถาม เห็นมีข่าวว่าคุณพายัพเขาพร้อมจะมายืนยันแล้วนะครับ
ตอบ ถ้ามาจริงๆ ลูกบอลก็จะไหลมาเข้าเท้ากรมราชทัณฑ์ว่า ต้องรวบรวมข้อมูลและทำความเห็นเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นชั้น แรกก่อน ซึ่งตรงนี้ก็จะพบว่า หลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติทั้งปวงที่มีอยู่ ล้วนวางไว้สำหรับกรณีผู้ต้องคำพิพากษากำลังถูกบังคับโทษอยู่ทั้งสิ้น แล้วจึงมีข้อมูลในระหว่างถูกบังคับโทษมาอ้างอิงขอพระราชทานอภัยโทษทั้งสิ้น (ยกเว้นกรณีรอการประหารชีวิต ที่ขอพระราชทานอภัยโทษได้โดยพลันใน 60 วัน)
ถาม แล้วกรณีฎีกาแดงนี้ กรมราชทัณฑ์จะทำอย่างไร
ตอบ ก็ต้องรายงานตามตรงว่าไม่มีกฎหมายและระเบียบราชทัณฑ์รองรับ ข้างรัฐมนตรียุติธรรมและนายกรัฐมนตรีก็ต้องสั่งระงับฎีกานั้นไป ทราบว่าที่ผ่านมาก็ทำกันเช่นนี้หลายครั้งแล้ว กรณีฎีกาแดงนี้ถ้าไม่สองมาตรฐานก็ต้องสั่งระงับไปเช่นกัน และด้วยเหตุเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อระงับแล้ว นายกฯ ก็ควรถวายรายงานให้ทรงทราบด้วยอีกทางหนึ่ง
ถาม พวกเสื้อแดงจะโวยวายได้ไหมว่าฝ่ายบริหารไม่มีอำนาจระงับฎีกาของตน
ตอบ หน้าที่ของฝ่ายบริหารคือต้องตรวจทานฎีกาให้ถูกต้องตรงตามครรลองของกระบวนการ ยุติธรรมที่วางไว้ชัดเจนแล้ว ซึ่งเมื่อไม่มีกฎเกณฑ์รองรับเลยก็เสนอไปไม่ได้ คุณจะเอาของเถื่อนไปถวายให้ทรงใช้พระราชอำนาจอย่างนั้นหรือ
ถาม ก็รองฯ เป็ดเขายืนยันนอนยันว่าเป็นพระราชอำนาจ เราจะไประงับฎีกาไม่ได้
ตอบ นั่นเป็นชั้นทรงพระราชวินิจฉัย ที่แล้วแต่จะทรงพระกรุณา แต่ในชั้นบริหารมันต้องกลั่นกรองให้ถูกต้องเสียก่อน เพราะคุณคือผู้รับผิดชอบในฐานะผู้รับสนองพระบรมราชโองการ แล้วที่พร่ำก้าบๆ อ้างว่ากฎหมายไม่ห้ามๆๆ..อยู่นั่นน่ะ รองฯ เป็ดไม่เห็นหรือว่า คำขอตามฎีกานี้มันขัดต่อหลักการปกครองโดยกฎหมายของระบบนิติรัฐอย่างชัดเจน มาก..มันยิ่งกว่า “ไม่ห้าม” เสียอีกนะคุณ
ถาม ขัดอย่างไร
ตอบ การอภัยโทษเป็นเรื่องต้องโทษแล้วสำนึกผิดกลับตัวกลับใจ มีพัฒนาการที่ดีในคุกหรือมีเหตุเฉพาะตัวอื่นๆ เช่น เจ็บป่วยใกล้ตาย ทั้งหมดนี้เป็นเหตุเฉพาะตัวที่เกิดขึ้นหลังพิพากษา จึงขออภัยโทษเป็นการเฉพาะรายได้ แต่การต้องโทษแล้วหนีคดีนั้น พฤติการณ์ในคดีศาลตัดสินไปแล้วว่าผิด เหตุลดหย่อนเฉพาะตัวถ้ามี ศาลก็ดูไปแล้วว่ามีหรือไม่ ขั้นต่อไปก็ต้องเข้าคุกก่อน ถ้าเรายอมให้พ้นโทษได้โดยไม่ต้องโทษใดเลย อย่างนี้ไม่ใช่การอภัยโทษแล้วล่ะครับ มันเท่ากับเรายอมให้ 3 ป.ใช้อำนาจบริหารมาทำลายผลคำพิพากษาอันเป็นที่สุดเลยนั่นเอง
ถาม แล้วมันเสียหายอย่างไร
ตอบ มันไม่เสมอภาคชัดๆ คนอื่นศาลพิพากษาว่าทำผิดก็ติดคุก แต่คนนี้ไม่ต้องไม่ต้องก็เพราะอำนาจตุลาการหมดความเด็ดขาด ตัดสินเด็ดขาดแล้วก็ไม่ยุติ ดันมีอำนาจบริหารโผล่มาทำลายผลคำพิพากษาได้เสียอีก
หลักความเสมอภาคภายใต้กฎหมายและหลักแบ่งแยกอำนาจนี้ รัฐธรรมนูญไทยอาราธนามาเป็นเสาเอกของระบบนิติรัฐไทยเนิ่นนานแล้ว มีบทบัญญัติปรากฏให้เห็นอยู่หลายมาตรา ถ้า 3 ป. ขืนเดินหน้าถวายฎีกาพร้อมความเห็นให้คุณทักษิณพ้นคำพิพากษาเมื่อใด ก็โดนข้อหาจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแน่นอน
ถาม เขาทำหน้าตายส่งฎีกาไปโดยไม่ถวายความเห็นประกอบได้ไหม
ตอบ ก็เพิ่มอีกข้อหาหนึ่ง คือจงใจละเว้นไม่ทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด โยนความรับผิดชอบให้พระเจ้าแผ่นดินโดยมิบังควร
กล้าดี...ก็ลองดู
ไม่ยอมรับกระบวนการอันเป็นเหตุแห่งการพิพากษาครั้งนี้
นับตั้งแต่การปล้นอำนาจรัฐเมื่อ 19 ก.ย. 2549
ต่อมามีการตั้ง คตส.เหี้ย และระบบกฎหมา (พิมพ์ไม่ผิดครับ)
รวมถึงกระบวนการไม่ยุติธรรมทั้งมวลเพื่อให้มีการตัดสินคดีแบบนี้
เราต้องการชำระสิ่งเหล่านี้ให้คืนสู่สภาพเดิมทั้งมวล...เข้าใจ๋ ?!?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น