หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พฤษภาฯมรณะ จาก 2553 ถึง 2555 ความรุนแรงยังไม่สิ้นสุด

พฤษภาฯมรณะ จาก 2553 ถึง 2555 ความรุนแรงยังไม่สิ้นสุด

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553 หนังสือพิมพ์ในเครือมติชน ประกอบด้วย มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ ได้เสนอบทนำเรื่อง "หยุดฆ่าทันที"

มีสาระสำคัญ ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น แสดงความเสียใจที่ทุกกลไกที่เกี่ยวข้องไม่ทำหน้าที่ และเรียกร้องให้หยุดเข่นฆ่ากันในทันที

สถานการณ์ ณ เดือนเมษายน-พฤษภาคม ก่อนหน้าการแสดงท่าทีของเครือมติชน ได้เกิดการปะทะที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน มีเจ้าหน้าที่และคนเสื้อแดง เสียชีวิตไปแล้วจำนวนหนึ่ง

มีการใช้หน่วยแม่นปืนหรือสไนเปอร์ ยิงจากระยะไกลสังหารประชาชน มีผู้บาดเจ็บล้มตายแล้วจำนวนหนึ่ง

รวมถึง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ที่หน้าทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าลุมพินี เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2553

รวมถึง นายสมาพันธุ์ ศรีเทพ หรือ "น้องเฌอ" อายุ 17 ปี ที่ ซอยรางน้ำ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม

เป็นห้วงเวลาที่กรุงเทพฯกลายเป็นพื้นที่แห่งความรุนแรง ศูนย์กลางของเมืองกลายเป็นแดนอันตราย พร้อมส่งมอบความตายให้กับใครก็ได้ที่ผ่านไปมา

และไม่มีวี่แววว่าจะลดละเลิกรา

เป็นที่มาของบทนำ "หยุดฆ่าทันที" เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2553

มีเนื้อหาบางตอนดังนี้

จากเหตุรุนแรงซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก หนังสือพิมพ์มติชน ข่าวสด ประชาชาติธุรกิจ มติชนออนไลน์ ทั้งเครือข่าย ได้ร่วมกันกำหนดท่าทีว่าเราไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาดต่อความรุนแรงทั้งปวงที่เกิดขึ้น

1.เราเห็นว่าขณะนี้ทุกฝ่ายทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ไม่สามารถเป็นหลักที่จะช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง เพราะต่างฝ่ายต่างเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า แม้จะรู้ว่าการรุกคืบต่อไปของรัฐบาลจะต้องเผชิญกับหนทาง ซึ่งไร้ทางออก ก็ยังแข็งขืนดำเนินการต่อไป

ประกอบกับการตัดสินใจทั้งของรัฐบาล และแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม คับแคบ อยู่ในแวดวงไม่กี่คน และเชื่อแต่ในประโยชน์เฉพาะกลุ่มตนเอง ได้นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงเช่นที่ปรากฏ

2.ขณะเดียวกัน น่าเสียใจที่กลไกทุกกลไกในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลเอง พรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา องค์กรอิสระ ฯลฯ ไม่เคยแสดงปัญญาความคิดเป็นบทบาทหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาเป็นเวลานาน กลายเป็นการสะสมความเกลียดชังไปในทุกส่วน แทนที่จะเป็นกลไกในการแก้ปัญหา กลับกลายเป็นตัวปัญหาเสียเอง และยังสร้างเงื่อนไขขยายปัญหาออกไปเรื่อยๆ จนไม่อาจหันหน้าเข้าหากันเพื่อเจรจาปรองดองได้ในที่สุด

3.สภาพดังกล่าวนำไปสู่การสูญเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิต มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พิการ ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกหลานไทยทั้งสิ้น นอกเหนือไปจากการสูญเสียทรัพย์สิน สภาวะเศรษฐกิจที่เสื่อมทรุด ยังทำให้จิตใจของสังคมต่ำทรามไร้ศีลธรรมลง

4.เราจึงขอเรียกร้องอย่างหนักแน่นและจริงจัง ให้ทุกฝ่ายซึ่งกำลังขัดแย้งกันอยู่ขณะนี้ ยุติการเข่นฆ่ากันในทันที เลิกมิจฉาทิฐิ ไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ และเร่งเจรจากันอย่างเสมอภาค จริงจังและจริงใจ โดยรัฐบาลจะต้องหยุดปฏิบัติการรุนแรงซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บล้มตาย พร้อมๆ กับฝ่ายประท้วงต้องยุติการชุมนุม เพื่อปกป้องชีวิตประชาชน

น่าเศร้าที่หลังจากนั้น รัฐบาลสั่งให้ทหารเข้าสลายผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ และผลคือมีผู้เสียชีวิต 91 ศพ

ในจำนวนนั้น มี 6 ศพ เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม

เป็นหน้าประวัติศาสตร์ของความสูญเสีย ที่เศร้าสลดที่สุดอีกหน้าหนึ่ง เท่าที่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย

ผ่านไป 2 ปี เสียงยืนยันความชอบธรรมในการสังหารประชาชนยังแข็งกร้าว แม้จะเริ่มออกอาการสั่น

ความรุนแรงยังไม่ยุติ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบวิธีการเท่านั้น
 

  

(ที่มา)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1337162108&grpid=&catid=03&subcatid=0305

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น