หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ยิ่งลักษณ์ตบหน้าวีรชนเสื้อแดงสองปีหลังราชประสงค์เลือด

ยิ่งลักษณ์ตบหน้าวีรชนเสื้อแดงสองปีหลังราชประสงค์เลือด 








   

 

 

การ ที่นายกยิ่งลักษณ์เดินทางไปเยือนประเทศบาห์เรนและการจับมือกับทรราชเผด็จการ ที่ประเทศนั้น ถือว่าเป็นการตบหน้าดูถูกวีรชนเสื้อแดงที่สละชีพเพื่อประชาธิปไตยใน เหตุการณ์นองเลือดที่ราชประสงค์เมื่อสองปีก่อน เพราะที่บาห์เรนรัฐบาลเผด็จการของกษัตริย์ นาบีล ราจับ ได้เข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยถึง 60 กว่าศพ บาห์เรนจึงขึ้นอันดับความป่าเถื่อนในตะวันออกกลางรองจากประเทศซิเรีย

งานศพอากงยังไม่ทันเสร็จสิ้น นายกยิ่งลักษณ์ก็ไปค้าขายบนซากศพวีรชนบาห์เรน และที่บ้านก็ปรองดองบนซากศพวีรชนเสื้อแดง สรุปแล้วรัฐบาลเพื่อไทยและนายกยิ่งลักษณ์ไม่มีศีลธรรมหรืออุดมการณ์ ประชาธิปไตยเหลืออยู่เลย 


เวลารัฐมนตรีมหาดไทย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ พูดต่อว่าเสื้อแดงที่ไปยื่นหนังสือเรื่องการแก้ไข 112 ให้ “รักษาหน้านายกยิ่งลักษณ์หน่อย” มันเป็นเรื่องตลกร้าย เพราะไม่มีหน้าอะไรจะรักษาหลังจากที่จับมือทรราชมือเปื้อนเลือดทั้งในและนอก ประเทศ

องค์กรสิทธิมนุษยชน Human Rights Watch รายงาน ว่ารัฐบาลบาห์เรนทรมานนักโทษการเมืองอย่างเป็นระบบ รวมถึงเด็กและสตรีด้วย มีการข่มขู่แพทย์ที่รักษาคนที่ถูกยิงหรือบาดเจ็บ และมีการทุบทิ้ง “อนุสาวรีย์วงเวียนไข่มุก” กลางเมืองมานามา เพราะกลายเป็นสัญญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ถ้าเป็นในไทยก็เท่ากับรัฐบาลทุบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทิ้ง

การประท้วงเพื่อประชาธิปไตยที่บาห์เรน ได้รับแรงบันดาลใจจากการลุกฮือที่อียิปต์และที่อื่น แต่รัฐบาลกษัตริย์ใช้ทหารและรถถังจากเผด็จการประเทศ ซาอุ อาเรเบีย เพื่อปราบปรามประชาชนอย่างเลือดเย็นเมื่อปีที่แล้ว

อับดุลฮาดี อัลคาวาจา เป็นหนึ่งในนักโทษการเมือง 8 คนที่ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิตในศาลทหารในฐานะที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ตอนนี้ อับดุลฮาดี อัลคาวาจา อดอหารประท้วงมา 3 เดือนแล้ว เขาและนักโทษอื่นๆ ถูกทรมานให้สารภาพผิด

ในขณะที่มหาอำนาจตะวันตกวิจารณ์เผด็จการซิเรียที่เข่นฆ่าประชาชนหมื่นกว่าคน ตะวันตกเงียบเรื่องบาห์เรน เพราะสหรัฐมีฐานทัพเรือที่สำคัญที่นั้น และเมื่อเดือนที่แล้วพวกนายทุนแข่งรถ “ฟอร์มูล่าวัน” ก็เพิกเฉยต่อปัญหาสิทธิมนุษยชนด้วยการจัดงานแข่งรถท่ามกลางคราบเลือดของ วีรชน

คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งชอบออกมาแก้ตัวแทนยิ่งลักษณ์ ด้วยการพูดเท็จว่า “รัฐบาลไม่มีอำนาจที่จะแก้ไข 112” ซึ่งไม่จริง แต่สิ่งที่เราเห็นชัดตอนนี้คือนายยิ่งลักษณ์เลือกที่จะไปบาห์เรนเพื่อไปจับ มือกับทรราช โดยเน้นผลประโยชน์ธุรกิจมากกว่าความถูกต้อง เหมือนกับที่เคยเลือกไปกราบพลเอกเปรม

หลังเหตุกาณ์นองเลือดราชประสงค์ที่ทหารไทยจงใจยิงประชาชนเสื้อแดงตายไปเกือบ 90 ศพ เมื่อนายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศว่าจะมาเยี่ยมประเทศไทยและอาจมาเยี่ยม อภิสิทธิ์ พวกเรา ทั้งชาวไทยและชาวอังกฤษ ร่วมกันรณรงค์ไม่ให้ไป จนเขาต้องยกเลิกการเดินทาง การเงียบเฉยของคนไทยและสื่อไทยจำนวนมากต่อการเดินทางครั้งนี้ เสี่ยงกับการทำให้ชาวโลกที่รักประชาธิปไตย คิดว่าคนไทย “ตื้นเขิน” ไม่สนใจหลักการอะไร หรือปัญหารอบตัวในโลกปัจจุบัน

(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/349-2012-05-15-17-40-47.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น