Egypt องค์กรปฏิวัติสังคมนิยมอียิปต์ วิเคราะห์สถานการณ์
มันไม่ใช่จุดจบของประชาธิปไตย และไม่ใช่แค่รัฐประหาร มันซับซ้อนกว่านั้น
สหาย ซาเมย์ นากวิบ จากองค์กรปฏิวัติสังคมนิยมอียิปต์ อธิบายว่า.....
"มันเป็นสถานการณ์ที่ขัดแย้งในตัวเอง ถ้าดูผิวเผินมันเป็นรัฐประหารโดยทหาร แต่ทหารเข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันตนเองจากการปฏิวัติมวลชน ในอีกด้านมันเป็นการกระทำของมวลชนเป็นล้านที่ทำให้ทหารเข้าแทรกแซง มันเป็นครั้งที่สองที่เกิดขึ้น ครั้งแรกคือกรณีมูบารัก ครั้งที่สองคือมูรซี่ มวลชนออกมาเป็นล้าน มันเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ ชนชั้นปกครองอียิปต์ตอนนี้เหมือ
นหมาจนตรอก เกือบจะไม่มีทางเลือกเหลือ ถ้ามูรซี่อ่อนแอ
ตัวแทนอื่นของชนชั้นนายทุน เช่น เอล์บาราเดย์ ก็ยิ่งอ่อนแอ
มันไม่ใช่จุดจบของประชาธิปไตย และไม่ใช่แค่รัฐประหาร มันซับซ้อนกว่านั้น
มวลชนบนท้องถนนมีความมั่นใจในตนเองสูงมากที่จะกำหนดประวัติศาสตร์ได้
กระบวนการปฏิวัติเป็นกระบวนการที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง แค่การเลือกตั้งทุกห้าปีเป็นเรื่องตลก กองทัพอียิปต์ต้องการจะยับยั้งกระบวนการปฏิวัตินี้
มีการวางแผนว่าจะนัดหยุดงานในวันพฤหัสโดยคนงานขับรถเมล์คนงานรถไฟ คนงานโรงงานซีเมน และคนงานคลองซุเอส คนที่ออกมาประท้วงส่วนใหญ่เป็นกรรมาชีพ การประท้วงอาจลามไปสู่การนัดหยุดงานทั่วไปได้ และนี่คือสิ่งที่พวกทหารกลัว
มันยังไม่จบ
ในช่วงแรกๆ มวลชนที่ต่อต้านมูรซี่แสดงความดีใจ มีการเชียร์กองทัพ แต่มวลชนไม่โง่ เขารู้ว่าตำรวจกับทหารทำอะไรในอดีต
ความหวังที่จะมีการเปลี่ยนแปลงพุ่งสูงสุดขอบฟ้า สูงกว่าตอนเราล้มมูบารักอีก และรัฐบาลใหม่ไหนที่เข้ามาคงจะไม่สามารถตอบสนองได้
มวลชนรู้ว่าตนเองมีพลังและมีสิทธิ์ เขาล้มประธานาธิบดีมูรซี่ภายในระยะเวลาแค่หนึ่งปี เพราะมูซี่ไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน มวลชนสามารถทำได้อีกในอนาคต”
(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/427-egypt--.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น